ไม่ใช่การลดน้ำหนักที่ทำได้ยาก แต่สำหรับคนที่ผอมมาก ๆ การเพิ่มน้ำหนักก็ทำได้ยากไม่แพ้กันเลย ลองไปดูวิธีที่ทำได้ง่าย และไม่ทำให้สุขภาพเสียกันเลย 1. เลือกกินอาหารที่มีแคลอรี่และสารอาหาร แน่นอนว่าต้องไม่ใช่พวกอาหารขยะหรืออาหารแช่แข็งนะ เพราะอาหารเหล่านั้นมีแคลอรีสูงจริง แต่ไม่มีประโยชน์อื่น ๆ ต่อร่างกายของเรา- ถ้าชอบกินขนมปัง แนะนำให้กินเป็นขนมปังโฮลวีตแทนขนมปังขาว เพราะมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายมากกว่า หรือขนมปังที่มีส่วนผสมของจมูกข้าวก็ดีเหมือนกัน- ผลไม้ที่แนะนำให้กินเพื่อเพิ่มน้ำหนักก็คือ กล้วย สัปปะรด อโวคาโด ลูกเกด และผลไม้อบแห้ง เพราะเป็นประเภทที่มีคาร์โบไฮเดรต แคลอรี และสารอาหาร มากกว่าผลไม้ที่น้ำเยอะ ๆ อย่างส้มหรือแตงโม- ผักที่ให้เลือกกิน ก็เหมือนกับผลไม้เลย โดยเลือกผักที่ให้คาร์โบไฮเดรตมากกว่า อย่างพวกถั่ว ข้าวโพด มันฝรั่ง และฟัก- ใครชอบกินอะไรนม ๆ เนย ๆ…

พฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือ Sedentary Lifestyle คือ การนั่งหรือนอนในกิจกรรมต่าง ๆ โดยใช้พลังงาน 1.5 MET และมีผลวิจัยออกมาว่า พฤติกรรมดังกล่าวนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ด้วย พฤติกรรมเนือยนิ่งส่งผลเสียต่อร่างกายหลายด้าน โดยทำให้กระบวนการเผาผลาญไขมัน และน้ำตาลเป็นพลังงานลดลง น้ำหนักตัวจึงเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด อาจสูญเสียความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกจากการไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่ควร ร่างกายจึงเสี่ยงต่อการเกิดโรค ดังนั้นเราควรรู้จักกับพฤติกรรมเนือยนิ่งให้มากขึ้น รู้ถึงโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับพฤติกรรมนี้ และลดความเสี่ยงด้วยการหากิจกรรมต่าง ๆ มาทำ วันนี้จึงมีเคล็ดลับเพิ่มกิจกรรมทางกายเพื่อลดพฤติกรรมเนือยนิ่งมาฝากกัน ดูเลย โรคที่มากับพฤติกรรมเนือยนิ่ง 1. โรคอ้วน2. คอเลสเตอรอล และความดันโลหิตสูง3. โรคหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจขาดเลือด4. โรคหลอดเลือดสมอง5.…

อาหารและเครื่องดื่ม มักมีค่าพลังงานที่แตกต่างกันออกไปตามชนิด และอาหารที่คลายกัน แต่แคลอรีต่างกัน จะมีอะไรดูเลย ไข่เหมือนกัน แต่แคลอรีต่างกัน ไข่มีประโยชน์มากมาย นอกจากไข่ไก่แล้ว ปัจจุบันมีการบริโภคไข่ประเภทอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งใน 1 ฟอง ก็ให้สารอาหารที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1. ไข่ไก่ไข่ไก่ ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี มีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม โอเมกา 3 วิตามินเอ วิตามินดี ไอโอดีน และคอเลสเตอรอล ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ 2. ไข่เป็ดไข่เป็ด 1 ฟองให้พลังงาน 88…

ว่ากันว่าการเขย่าอวัยวะในร่างกาย สามารถช่วยให้เราคลายเครียด และมีประโชยน์ต่อร่างกายด้วย เขย่าข้อมือการเขย่าข้อมือแบบธรรมดา ๆ สะบัดไปมาเหมือนเวลาที่เราเรียนในคาบพละ การศึกษาพบว่าจะช่วยป้องกันพังผืด และข้อมืออักเสบจากออฟฟิศซินโดรม หรืออาการกล้ามเนื้อเครียดได้ และผลพลอยได้ คือ ข้อมือเราจะแข็งแรงขึ้น เขย่าแขนการเขย่าแขนขึ้นลงแค่วันละ 10 นาทีต่อข้าง ผลที่ได้พบว่าทำให้แขนฟิตมากขึ้นและยังช่วยคลายกล้ามเนื้อแขนที่ตึง ๆ ให้สบายขึ้นได้อีกด้วย เขย่าขาการเขย่าขาที่ใครหลายคนมักจะเป็น และคนรอบตัวมักจะรำคาน โดยพฤติกรรมนี้เกิดจากความเคยชินโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเบื่อ จึงต้องหาอะไรทำเพื่อเป็นการกระตุ้นตัว ซึ่งการเข่าขาพบว่าจะช่วยเบี่ยงเบนสมองส่วนที่เรากำลังเบื่อนั่นเอง เขย่าสะโพกการเขย่าสะโพก หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทเวิร์ก โดยมีวิจัยพบว่าทเวิร์ก 60 นาที เบิร์นได้กว่า 500 แคลลอรี ซึ่งช่วยทำให้ขา และก้นกระชับขึ้น และถ้าหากเปิดเพลงพร้อมกับทเวิร์กไปด้วย ก็จะทำให้เราคลายเครียดลง

ปัจจุบันวิตามิน และอาหารเสริมมีมากมาย เนื่องจากเป็นทางเลือกสำหรับการดูแลสุขภาพ และผิวพรรณให้งายมากขึ้น แต่รู้ไหมว่า อาหารเสริมเหล่านี้ถ้าหากทานมากไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง คอลลาเจน (Collagen) ประโยชน์ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ป้องกันรอยเหี่ยวย่น และผิวแก่ก่อนวัย แม้ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น การรับประทานอาหารบางชนิดช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้ หากทานมากเกินไป : จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องผูก ท้องเสีย แสบร้อนกลางอก ง่วงซึม ปวดศีรษะ และอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ และยังทำให้คอลลาเจนตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย ปริมาณที่ควรทาน : 2,000 – 2,500 มิลลิกรัม/วัน น้ำมันตับปลา (Cod liver oil) ประโยชน์ : กรดไขมันโอเมก้า 3…