พฤติกรรมทำลายสมอง

พฤติกรรมทำลายสมอง

krittimaJan 29, 20243 min read

วันนี้มาสรุปพฤติกรรม บางพฤติกรรมที่เราอาจกำลังทำ ซึ่งมีผลทำร้ายสมอง และความจำของเราโดยไม่รู้ตัว ซึ่งวันนี้มาสรุปพฤติเพื่อหยุดทำร้ายสมองกัน 1. ไม่รับประทานอาหารเช้าการไม่รับประทานอาหารเช้าทำให้ไม่สดชื่น ยังส่งผลกระทบต่อสมองและความจำ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก 2. สูบบุหรี่ในบุหรี่มีสารนิโคตินและสารพิษอื่น ๆ ที่ทำให้หลอดเลือดแดงตีบตัน ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย เกิดหัวใจวายกะทันหัน หลอดเลือดสมองตีบตัน และทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ และการสูบบุหรี่ยังทำให้เซลล์สมองฝ่อและเสื่อมได้ง่ายกว่าปกติเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ 3. อดนอนเป็นประจำการอดนอนเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองถูกทำลาย มีผลต่อการทำงานของสมองในส่วนต่าง ๆ ให้ทำงานผิด เช่น ที่สมองส่วนหน้าสุด จะทำให้การเรียนรู้จากคำพูดแย่ลง ส่วนกลีบสมองบริเวณขมับจะทำให้การเรียนรู้ด้านภาษาช้าลงอีกด้วย 4. ความเครียด ความวิตกกังวลความเครียด ความวิตกกังวล  ถ้ามีน้อย ๆ และนาน ๆ…

มีรอยดำ ทำยังไงดี ?

มีรอยดำ ทำยังไงดี ?

krittimaJan 29, 20242 min read

ปัญหารอยดำตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น เข่าดำ ศอกดำ ตาตุ่มดำ คอดำ  รักแร้ดำ วันนี้มาดูสูตรรักษารอยดำด้วยวิธีธรรมชาติ จะมีอะไรบ้าง ดูเลย 1. มะนาวถูมะนาวลงบนหัวเข่า และข้อศอกบริเวณที่ดำด้านทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วนำผ้าขนหนูแช่น้ำร้อนมาถูวนเบา ๆ บริเวณที่ต้องการ 2. เบกกิ้งโซดา+นมสดผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ กับนมสดนิดหน่อยนำมาถูเป็นวงกลมบนข้อศอก และหัวเข่าที่ดำด้านทำซ้ำติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันแล้วจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง 3. ขมิ้น+นมสด+น้ำผึ้งผสมผงขมิ้นเพียงเล็กน้อยกับนมสด และน้ำผึ้งนำมาทำบริเวณศอก และเข่าที่ดำด้านทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นถูวนประมาณ 2 นาทีด้วยมือที่เปียกน้ำแล้วล้างออกขมิ้นจะช่วยฆ่าเชื้อ น้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกรดแลกติกในนมจะช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น 4. โยเกิร์ต+น้ำส้มสายชูผสมโยเกิร์ตและน้ำส้มสายชูเล็กน้อยเข้าด้วยกันเสร็จแล้วนำไปถูเป็นวงกลมบริเวณศอกและเข่าประมาณ…

นอนกระตุก​ เหมือนตกเหว​

นอนกระตุก​ เหมือนตกเหว​

krittimaJan 24, 20243 min read

หลายคนคงเคยมีอาการนอนกระตุก (Hypnic Jerk) หรือความรู้สึกที่เหมือนตกจากที่สูงขณะนอนหลับจนสะดุ้งตื่น ซึ่งเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติขณะนอนหลับ และจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับอาการสะอึก อาการประหลาดนี้เกิดจากอะไรกันแน่ นอนกระตุกบ่อย ๆ เป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพหรือเปล่า มาหาคำตอบพร้อมกันเลย อาการนอนกระตุกเป็นอย่างไร ? อาการนอนกระตุก นอนแล้วสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกเหมือนตกจากเหวหรือที่สูงมักเกิดขึ้นกับร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง เช่น แขนซ้าย หรือขาซ้าย โดยอาจเป็นการกระตุกเพียงครั้งเดียวหรือหลายครั้งติดต่อกัน ก่อนที่กล้ามเนื้อจะผ่อนคลายลงจนค่อย ๆ หายกระตุกไปเอง ในระหว่างที่มีการกระตุก เรามักจะมีความรู้สึกอื่น ๆ หรือมองเห็นภาพในสมองไปพร้อมกัน เช่น การฝัน หรือความรู้สึกถึงสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง มีหลายคนที่กล่าวตรงกันว่ารู้สึกเหมือนตกจากเหว เห็นแสงสว่างวาบ บางคนได้ยินเสียงทุบ เสียงของแตก หรือเสียงดังฉับพลัน ปกติการนอนกระตุกจะไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดใด ๆ แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกเจ็บหรือมีอาการชาคล้ายโดนของแหลมทิ่ม ทั้งนี้ในกรณีที่เกิดขึ้นเบามาก เราอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ว่านอนกระตุก​ แต่หากอาการกระตุกแรงมากพอ…

รวมข้อดี ของการใส่รองเท้าสลิปเปอร์ในบ้าน

รวมข้อดี ของการใส่รองเท้าสลิปเปอร์ในบ้าน

krittimaJan 24, 20242 min read

Slippers หรือเรียกง่าย ๆ ว่ารองเท้าที่ใส่กันในบ้าน แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วการใส่รองเท้าในบ้านนั้นมีข้อดีมากกว่าที่คิด แต่ว่าข้อดีของการใส่ Slippers นั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1. ใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคการใส่รองเท้า Slippers ในบ้านนั้นจะช่วยรักษาความสะอาดให้กับฝ่าเท้าของของคุณเอง เพราะโดยปกติการเปิดประตูเข้า – ออกตลอด มักจะมีฝุ่นเข้ามาจากภายนอกนั้น ไม่ว่าจะเป็นในบริเวณห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องครัวที่อาจจะมีเศษอาหารที่กระเด็นตกลงพื้น รวมถึงการไอ การจามของเราที่กระเด็นสะสมอยู่ เพราะฉะนั้นการใส่รองเท้าไว้ก็สามารถป้องกันเชื้อโรคได้นั่นเอง 2. ใส่เพื่อป้องกันฝ่าเท้า ใครที่ฝ่าเท้ามีความด้าน ส้นเท้าแตก ฝ่าเท้าแดง ปวดข้อเท้า ถ้ามีอาการเหล่านี้แนะนำให้หารองเท้า Slippers มาใส่เพื่อป้องกันไว้ ควรเลือกรองเท้า Slippers ที่มีการเสริมพื้นหนา และมีความนุ่มสบายเพื่อที่จะช่วยป้องกันปัญหาที่ข้อเท้าและฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดี 3. ใส่เพื่อป้องกันไฟดูด   เหตุผลหลักที่ทุกคนควรจะหันมาใส่รองเท้าในบ้าน เพื่อที่จะป้องกันไฟดูด…

5 วิธีดูแลผิวเมื่อโดนแดดหนักมาก

5 วิธีดูแลผิวเมื่อโดนแดดหนักมาก

testJan 10, 20242 min read

เข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว เราก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับแดดที่ร้อนไม่เว้นวันจนอาจจะทำให้ผิวของเราพังได้ นอกจากจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นแล้ว ยังทำให้ผิวหมองคล้ำ และเกิดรอยไหม้ได้ง่ายอีกด้วย มาดูกันว่ามีวิธีไหนที่ช่วยกู้สภาพผิวที่ถูกแผดเผาของเราได้บ้าง ตามมาดูกันเลย หลีกเลี่ยงการโดนแดดซ้ำๆ ผิวที่ตากแดดก็เหมือนกับเราเป็นแผลนั่นแหละ ถ้าเรามีแผลแล้วไปล้มที่เดิมซ้ำ ๆ แผลก็คงไม่หายซักที ผิวที่โดนแดดเองก็เหมือนกัน ถ้าเราพาเค้าไปออกแดดเปรี้ยง ๆ ซ้ำกันทุกวัน ก็คงยากที่ผิวจะกลับมามีสภาพเดิมได้ โดยเฉพาะระหว่างสิบโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ไม่ควรเอาตัวเองไปยืดกลางแดดนาน ๆ  แล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดด SPF50 เป็นประจำด้วยนะ อาบน้ำเย็น หรือแช่ตัวด้วยน้ำเย็น ผิวที่เพิ่งโดนแดดมาจนระอุ ห้ามโบกครีมบำรุงลงไปทันทีเด็ดขาด สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือการปลอบประโลมผิวด้วยการอาบน้ำเย็น หรือถ้าใครมีอ่างอาบน้ำก็แช่ลงไปเลย หรือจะเอาตัวแช่ลงไปในสระว่ายน้ำก็ได้ แต่อาจจะต้องเว้นสระที่มีคลอรีนไว้นะคะ เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ขั้นตอนนี้จาดไม่ได้เด็ดขาด หลังจากที่ผิวของเราได้รับการปลอบประโลมใจจากน้ำเย็นมาแล้ว ก็ต้องเติมความชุ่มชื้นให้เค้าเพิ่มซักหน่อยเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวลอก แนะนำให้ใช้สูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายและลดการระคายเคือง เพราะผิวที่เพิ่งโดนแดดมาจนบอกช้ำ จะระคายเคืองได้ง่ายกว่าผิวปกติ ดื่มน้ำเยอะๆ…