จะเวิร์กมาก ถ้าทานผัก-ผลไม้เหล่านี้ แบบไม่ปอกเปลือก
โดยปกติแล้วผัก-ผลไม้ที่เราเลือกกินทุกวันนี้มีประโยชน์ซ่อนอยู่ในตัวเองแทบทุกชนิด แต่ก็มีบางชนิดที่เราเลือกปอกเปลือกทิ้งกินแต่เนื้อด้านใน เพราะด้วยรสชาติของเปลือกที่ฝาดและขม พร้อมความกังวลเรื่องสารพิษตกค้างที่อาจติดมากับเปลือกผลไม้ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าผัก-ผลไม้บางชนิดหากปอกเปลือกทิ้งก็เหมือนเราหยิบคุณค่าทางสารอาหารบางส่วนออกไปด้วยเช่นกัน แอปเปิ้ล ผลไม้ที่เปลือกมีคุณค่าทางสารอาหารไม่แพ้กับเนื้อแอปเปิ้ลด้านในเลย เปลือกของแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยไฟเบอร์, มีวิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินเค, โพแทสเซียม และสารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ควบคุมระดับความดันโลหิตได้ Tip! ถ้าหากกลัวสารตกค้าง ควรเลือกแอปเปิ้ลออร์แกนิก และล้างแอปเปิ้ลด้วย เบกกิ้งโซดา แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วนำมาล้างขัดผิวทีละลูกเพื่อความสะอาด ฟักทอง เปลือกฟักทองสีเขียวที่ดูแข็งสู้ฟัน เมื่อนำไปผ่านความร้อนให้สุกก็จะสามารถทานแบบปกติได้ มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต และช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอในร่างกายได้ Tip! แนะนำเลือกสายพันธ์ฟักทองที่เปลือกไม่หนามาก นำหั่นแล้วนำไปนึ่งก็จะสามารถทานได้ทั้งเปลือก แตงโม เป็นอีกส่วนที่เรามักจะทิ้งทันทีเมื่อกินเนื้อแตงโมหมด แต่ด้วยคุณประโยชน์ของเปลือกแตงโมทำให้ทิ้งไม่ลงเลย ในเปลือกแตงโมอุดมไปด้วยไลโคปีน, เบต้าแคโรทีน และซิทรูลีน…
อย่าลืม จุดที่ไม่ควรละเลยเวลาอาบน้ำ
เวลาอาบน้ำ เราควรใส่ใจพิถีพิถันในการทำความสะอาดร่างกายให้มาก อย่าละเลยให้อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งจนเกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ซึ่งในระยะยาวอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ และทำให้มีปัญหาทางสุขภาพตามมาได้ 8 จุดที่คุณไม่ควรละเลย มีดังนี้ 1. หนังศรีษะ (Scalp) แม้เราจะสระผมกันเป็นประจำ แต่หนังศีรษะเป็นจุดหนึ่งที่เรามักจะละเลย และทำความสะอาดไม่ทั่วถึง โดยส่วนมากจะชโลมแชมพู และครีมนวดผมลงบนเส้นผม นวดเฉพาะเส้นผม และขยี้เฉพาะเส้นผม ไม่ค่อยได้นวดหนังศีรษะ ซึ่งหนังศีรษะที่ทำความสะอาดไม่ดีจะทำให้เซลล์ผิวหนังตาย ก่อให้เกิดอาการคัน หนังศีรษะลอกเป็นขุย หรือเป็นรังแคดังนั้นเวลาอาบน้ำหรือสระผมอย่าลืมนวดที่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมารักษาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ และป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวหนังตายนั่นเอง 2. แผ่นหลัง (Back) แผ่นหลังเปียกน้ำแล้ว ไม่ได้หมายความว่าหลังของเราจะสะอาด ซึ่งแผ่นหลังจำเป็นที่จะต้องได้รับการขัดและถูไม่ต่างจากอวัยวะส่วนอื่น ๆ แต่ก็อาจจะติดปัญหาที่หลายคนอาจจะมีช่วงแขนสั้น จะเอื้อมมือไปทำความสะอาดหลังก็ทำได้ไม่ถนัด หรือทำแล้วแต่ไม่สามารถที่จะทำความสะอาดได้ทั่วถึง หรือพอเอื้อมไม่ถึงก็อาจจะละเลยในการทำความสะอาดไป หากเราทำความสะอาดแผ่นหลังไม่ทั่วถึง อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองที่แผ่นหลัง เกิดการสะสมคราบเหงื่อไคล บางครั้งก็อาจก่อให้เกิดสิวด้วยสามารถแก้ได้ด้วยการใช้ใยบวบขัดหลัง หรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับขัดทำความสะอาดหลังโดยเฉพาะ…
โอม จง เงย…ถ้าไม่อยากเป็น Text Neck Syndrome
“ก้มเล่นมือถือ” พฤติกรรมเสี่ยงกระดูกคอเสื่อม อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการก้มเล่นมือถือเป็นเวลานาน ๆ มากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง โดยอาการปวดคอเรื้อรัง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ (Text Neck Syndrome) โรค Text Neck Syndrome เกิดจากอะไร ? พฤติกรรมสังคมก้มหน้า การก้มหน้าเล่นมือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ เป็นเวลานาน เป็นสาเหตุของการเกิดโรค Text Neck Syndrome โดยการก้มหน้าลงทุก 15 องศา จะทำให้คอ และบ่าต้องรับน้ำหนักมากสูงสุดถึง 27 กิโลกรัม…
ตาเป็นแบบนี้ เกิดจากอะไร
ตาเป็นอวัยวะที่เปราะบาง และสำคัญมาก ๆ เพราะดวงตาก็เหมือนความรัก ตอนมีไม่รักษาไว้ ตอนไปก็ยื้อแทบไม่ทัน กว่าจะรู้ได้ว่าตาเราเปลี่ยนไปแค่ไหนก็อาจสายเกินแก้ สาเหตุก็มาจากการใช้สายตาที่หักโหมเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอทำตาล้า และยังขาดการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกก็ยิ่งทำให้ดวงตาเราแย่เข้าไปใหญ่ มาสังเกตุอาการของตาแต่ละแบบกันว่าเกิดจากอะไร 1. ตาแห้ง เกิดจากการตากแดด ตากลม ความชื้นในตาจึงระเหยออกไปเยอะ การจ้องหน้าจอนาน ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาไม่ค่อยกะพริบ น้ำตาจึงถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาน้อย หรืออาจเกิดจากการใช้ยาบางประเภท ความผิดปกติของเปลือกตา เช่น ตาปิดไม่สนิทตอนนอน ตากะพริบน้อยผิดปกติ หรือต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน เป็นต้น อาการที่เห็นได้ชัดเจนคือ รู้สึกเคือง ๆ ตา ไม่สบายตา เหมือนมีอะไรอยู่ข้างใน แสบตา ตาล้าง่าย ตาแดง สู้แสงไม่ได้ (แบบนี้จะทำให้น้ำตาไหลออกมามาก เพราะเคืองตาจากการโดนแดด บางคนอาจเข้าใจอาการในจุดนี้ผิดได้)…
ความเครียดทำให้ปวดหลัง แต่ความหลังทำให้ปวดใจ
วัยปวดหลังต้องรู้ บางทีเราอาจจะไม่ปวดหลังจากการยืนหรือนั่งผิดท่าอย่างเดียว แต่รู้ไหมความเครียดก็เป็นต้นเหตุของอาการหลาย ๆ อย่างในร่างกายเรา รวมทั้งทำให้เราปวดหลังด้วย ความเครียดนั้นมักจะส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะที่ไม่ดีต่อร่างกายยิ่งถ้าคุณมีโรคประจำตัวอยู่แล้วความเครียดจะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้น และเกิดการลุกลามที่หนักมากกว่าเดิมได้เช่นกัน ซึ่งความเครียดนั้นเกิดจากการใช้ชีวิตของเราเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว เมื่อมาถึงจุดที่ความเครียดสูง และสะสมมานานก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพที่แสดงออกมาเป็นอาการปวดหัวหรือปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออาการปวดหลัง ความตึงเครียดจะส่งผลกระทบไปสู่กล้ามเนื้อ และความกังวลจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความเครียด ร่างกายจึงหลั่งสารเคมีแห่งความเครียดออกไปสู่กล้ามเนื้อ เมื่อเกิดการสะสมนานวันเข้าก็จะเกิดอาการปวดหลัง ไหล่และคอมากที่สุดยิ่งคุณมีความเครียดสูงมากเท่าไหร่กล้ามเนื้อก็จะตึงมากขึ้นเท่านั้น และถ้าร่างกายยังคงวนเวียนอยู่กับความเครียดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อตรงส่วนที่ตึงก็จะยิ่งรัดตัวแน่นมากขึ้นอาการเจ็บปวดก็จะมาในทันทีและอาการปวดนี้ก็จะเรื้อรังความรุนแรงของอาการปวดหลังก็จะทวีคูณตามไปด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อในส่วนนี้ก็จะเริ่มอ่อนแอและสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น วิธีสังเกตุว่าเราปวดหลังจากความเครียด 1. จะมีอาการปวดหลัง ร่วมกับอาการนอนไม่หลับ วิงเวียนหรืออาเจียนบ่อยครั้ง และระบบย่อยอาหารมีปัญหา2. จะมีอาการค่อย ๆ ปวดหลัง โดยอาการจะไม่ปวดขึ้นทันที3. จะไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการชาที่หลัง หรืออ่อนแรง4. จะมีอาการปวดเฉพาะตอนไม่สบายใจ หรือกำลังเครียด วิธีเเก้อาการปวดหลัง 1.…