เคล็ดลับขับพิษจาก 5 อวัยวะของร่างกาย

เคล็ดลับขับพิษจาก 5 อวัยวะของร่างกาย

krittimaSep 8, 20233 min read

อาการอ่อนล้า ปวดศีรษะ ท้องผูก ความจำไม่ดี นอนไม่หลับ หงุดหงิด น้ำหนักเกิน ไปจนถึงมีรอยย่นมากขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากสารพิษที่สะสมในร่างกายทั้งสิ้น ดังนั้น ศาสตร์แพทย์แผนจีนจึงแนะนำให้คนเราควรขับสารพิษออกจากร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แม้ร่างกายคนเราจะมีระบบการขับพิษที่ดีอยู่แล้ว เราเองก็ควรที่จะรู้จักวิธีขับพิษที่ถูกต้องเพื่อให้การขับพิษมีประสิทธิภาพมากขึ้น แค่ปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และใส่ใจอาหารการกิน เท่านี้กลไกขับพิษของร่างกายก็จะทำงานได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น 1. ขับพิษจากปอด ปอดเป็นอวัยวะที่เก็บพิษได้ง่ายที่สุด โดยในอากาศที่เข้าสู่ปอดแต่ละวันมีทั้งเชื้อโรค ไวรัส ฝุ่นละออง ฯลฯ ซึ่งไม่เพียงเป็นอันตรายต่อปอด แต่อาจซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปทั่วร่างกาย วิธีขับพิษจากปอด – ควรฝึกการหายใจลึก ๆ โดยยกแขนทั้งสองข้างขึ้น จากนั้น กระแอมไอพร้อมกับลดแขนลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้อากาศออกจากปอดทั้งทางปากและจมูก ไอเอาเสมหะออกมาด้วย ควรทำทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้งจะช่วยขับพิษให้ปอดสะอาดขึ้น- กินเห็ดหูหนูดำให้มาก เพราะในเห็ดหูหนูดำมีเจลาตินดึงดูดให้พิษต่าง…

เปิดเคล็ดลับ การ “อาบน้ำ” ให้มีสุขภาพที่ดี

เปิดเคล็ดลับ การ “อาบน้ำ” ให้มีสุขภาพที่ดี

krittimaSep 7, 20232 min read

การ “อาบน้ำ” เรียกว่าเป็นอีก 1 กิจวัตรประจำวันในชีวิตของทุกคน ที่ต้องทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูแลสุขภาพร่างกาย ผิวกาย ให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค และ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจมองไม่เห็น เรามี 7 เคล็ดลับในการอาบน้ำ จะมีอะไรบ้าง ดูเลย 1. เตรียมร่างกายก่อนอาบน้ำก่อน “อาบน้ำ” ควรเตรียมพร้อมร่างกายประมาณ 5-10 นาที เพื่อปรับสภาพร่างกายให้อบอุ่น เพราะเมื่อร่างกายมากระทบกับน้ำที่เย็น สัมผัสกับผิวจะทำให้ระบบภายในร่างกายเกิดอาการรวน เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกาย และภายนอกร่างกายเปลี่ยนแปลงฉับพลัน  ส่งผลทำให้เกิดเป็นหวัดได้ง่าย 2.  หลังทานอาหารไม่ควรอาบน้ำทันทีถ้าหากอาบน้ำทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จและอิ่มใหม่ ๆ เนื่องมาจากเส้นเลือดฝอยที่อยู่ตามผิวหนังเมื่อถูกน้ำอุ่นจะเกิดการขยายตัว และเลือดจะกระจายตัวไปสู่ผิวหนังเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการย่อยและระบบการดูดซึม 3.  หลังออกกำลังกายไม่ควรอาบน้ำทันทีไม่ควร “อาบน้ำ” ทันทีหลังจากออกกำลังกายเสร็จ …

ครีมบำรุงเหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน

ครีมบำรุงเหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน

krittimaSep 7, 20233 min read

ทุกคนต้องเคยทาครีมบำรุงผิวกันมาแล้วอย่างแน่นอน แต่เคยสงสัยไหมว่า ครีมที่เราใช้ ชื่อจริง ๆ มันไม่ได้เรียกแค่ ครีม แต่มีชื่อเรียกแตกย่อยไปอีกเยอะมาก เช่น โลชั่น ซีรัม วันนี้มาดูสรุปกันว่าครีมบำรุงแต่ละแบบเรียกไม่เหมือนกันจริง ๆ แล้วมันต่างกันยังไง Cream – ครีม ลักษณะ : มีส่วนผสมของน้ำมันมากกว่าน้ำ สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างที่จะข้น และหนักกว่าเนื้อแบบอื่น ๆ จึงส่งผลให้การซึมเข้าผิวช้า ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมนี้จะเคลือบอยู่บริเวณผิวชั้นบนมากกว่า ซึ่งเนื้อครีมช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีเยี่ยม เพราะด้วยความที่ผสมน้ำมันเยอะ แถมยังเคลือบผิวได้ดีอีก จึงชุ่มชื้นมาก แต่ก็อาจจะทำให้ผิวหน้าเกิดความมัน และการอุดตันได้ง่าย เหมาะกับ : คนผิวแห้ง เพราะครีมเนื้อหนาจะให้ความชุ่มชื้นกับคนผิวแห้งได้ Lotion – โลชัน ลักษณะ…

4 สารตกค้าง ภัยร้ายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

4 สารตกค้าง ภัยร้ายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

krittimaSep 7, 20233 min read

ผิวหนังเปรียบเสมือนกำแพงด่านหน้าคอยปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่าง ๆ ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในการดูแลป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายตัวเองได้ง่าย โดยสร้างสภาวะการเป็นกรดของผิวหนังที่พอดี (pH 5) ช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค ผิวก็ไม่ได้แข็งแรงเสมอไป เพราะในชีวิตประจำวันของเราก็ยังมีสารเคมีต่าง ๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ทั่วไป จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 1. โซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate หรือ SLS) เป็นสารที่มีคุณสมบัติลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้เกิดฟอง ช่วยให้สิ่งสกปรกและคราบไขมันหลุดออกได้ง่าย ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายชนิด เช่น สบู่ แชมพู ครีมล้างหน้า และยาสีฟัน จากการวิจัยพบว่าหากความเข้มข้นของสารที่ใส่ในผลิตภัณฑ์มีปริมาณมากเกินไป อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณที่สัมผัส โดยการระคายเคืองจะเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของสารที่เพิ่มขึ้นด้วย 2. สารกลุ่มพาราเบน (Parabens) เป็นสารกันเสีย (Preservative) มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ยีสต์ และแบคทีเรีย…

คนชอบนวดต้องดู จุดที่ไม่ควรนวด

คนชอบนวดต้องดู จุดที่ไม่ควรนวด

krittimaSep 4, 20232 min read

การนวดถือเป็นการ “กด” หรือ “คลึง” ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อช่วยผ่อนกลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดเหมื่อยตามร่ายการ นอกจากนี้การนวดยังมีหลายประเภท เช่น นวดกดจุด นวดน้ำมัน นวดแผนไทย นวดนักกีฬา รู้หรือไม่ว่าการนวดนั้น ถ้านวดไม่ถูกวิธี หรือไม่ถูกที่อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายหรืออาจถึงแก่ชีวิตได้ 5 จุดนวดที่อันตราย 1. ขมับขมับการต่อกันของกระดูกจะไม่แข็งแรงมากกล้ามเนื้อที่ปกคลุมบริเวณศีรษะไม่ได้หนาเท่าส่วนอื่นของร่ายกาย ถ้ากดด้วยน้ำหนักมาก ๆ อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ดังนั้นจึงไม่ควรกดขมับแบบรุนแรง 2. คอคอมีหลอดเลือดแดงใหญ่เพื่อทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง หากมีการกดเป็นเวลานานจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และอาจหมดสติได้ 3. รักแร้มีเส้นประสาทจำนวนมากที่เชื่อมต่อกับแขน หากกดแรงจะทำให้เกิดอาการอักเสบต่อเส้นประสาทที่อยู่บริเวณนั้นทำให้มีอาการชาและอ่อนแรงที่แขน 4. ท้องเพราะภายในช่องท้องมีอวัยวะและหลอดเลือดที่สำคัญมากมาย หากกดด้วยความแรงอาจจะทำให้ปวดท้องได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหลอดเลือดแดงในช่องท้องโป่งพองไม่ควรนวดที่ท้องเพราะหลอดเลือดอาจปริแตกได้ และอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิต 5. กระดูกสันหลัง อุ้งเชิงกรานผู้นวดที่ไม่มีความเชี่ยวชาญแนะนำให้หลีกเลี่ยงเพราะถ้านวดไม่ระมัดระวัง และนวดรุนแรงเกินไปทำให้กระดูกสันหลังและอุ้งเชิงกรานเคลื่อนหรือหักได้…