ใครที่เป็นประจำเดือนแล้วไม่ปวดท้องนี่ถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก ๆ เพราะว่าการปวดท้องประจำเดือนแต่ละที โอ้โหว! ขอบอกเลยว่าไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยล่ะ เห็นอะไรก็หงุดหงิดไปซะหมด แถมช่วงเป็นประจำเดือนเนี่ยอารมณ์แปรปรวนง่ายสุด ๆ แถมบางคนนี่ปวดท้องหนักถึงขั้นต้องกินยา ไม่ก็ต้องหยุดเพื่อนอนพักกันเลย เกิดเป็นหญิงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ แล้วการที่เป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำระหว่างมีประจำเดือนนั่นเอง วันนี้เราเลยจะมาบอกเคล็ดลับ 9 สิ่งที่สาว ๆ ไม่ควรทำตอนมีประจำเดือน เพราะยิ่งจะทำให้สุขภาพของเราแย่ลงไปอีก  คงอยากจะรู้แล้วใช่มั้ยล่ะ? ว่าพฤติกรรม 9 อย่างที่ไม่ควรทำจะมีอะไรบ้าง งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า… 1. ไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย สาว ๆ ที่ขี้เกียจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ขอบอกเลย ว่ากำลังทำร้ายตัวเองสุด ๆ เพราะการที่ใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมนานเกินไปโดยไม่เปลี่ยน จะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดเชื้อราในร่มผ้า เกิดอาการคันภายใน และเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จนทำเสียมั่นใจไปเลยและถ้าหนักหน่อยติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดและทางเดินปัสสาวะ ทำให้ช่องคลอดอักเสบ หรือถ้าเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะก็อาจจะทำให้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือกรวยไตอักเสบได้เช่นกัน…

ใครกลัวแก่ก่อนวัยต้องเช็กด่วน!  ยิ่งอายุมากขึ้น ผิวพรรณก็เริ่มเสื่อมไปตามวัย คอลลาเจนและอีลาสตินก็จะลดลง เป็นสาเหตุให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และเกิดริ้วรอย ถ้าปล่อยไว้ หน้าก็อาจจะแซงอายุไปไกลได้ ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางคนโดนทักจนเสียความมั่นใจกันเลยทีเดียว วันนี้จึงชวนมาสังเกต 5 จุดสำคัญบนใบหน้า ที่มักเกิดปัญหา ทำให้ดูแก่ก่อนวัย…รู้ก่อน จะได้แก้ปัญหาได้ทันนะคะ  5 จุดสำคัญบนใบหน้า ที่บ่งบอกว่าผิวหน้าของคุณแก่ก่อนวัยหรือยัง? 1. ใต้ตา – ถุงใต้ตา…พออายุเยอะดวงตาก็จะเกิดการหย่อนคล้อยลง หนังตาตก ที่สังเกตได้ชัด ก็คือใต้ตามีร่องลึก รอยดำคล้ำ มีถุงใต้ตา ทำให้เราดูโทรม เหนื่อยเพลีย และหน้าตาไม่สดชื่นแจ่มใส 2. ร่องแก้ม – ร่องน้ำหมาก…เกิดจากการพร่องหรือการฝ่อตัวของไขมันบริเวณร่องแก้ม ทำให้เกิดริ้วรอย เป็นวงเล็บอยู่ข้างแก้ม บางคนยาวลงมาถึงร่องที่มุมปาก เรียกว่า…

หลายคนมีความเชื่อว่า โรคเบาหวาน กินผลไม้ไม่ได้ เพราะ มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง เเต่ความจริงเเล้วมีผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อย และกากใยสูง ที่จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง ผลไม้ที่ผู้ป่วยเบาหวานทานได้ ผลไม้ 1 ส่วน จะเเตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้ เนื่องจากผลไม้เเต่ละชนิดจะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปจะแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมได้  ดังนี้ 1. ฝรั่ง ฝรั่งสามารถช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูง แถมแคลอรีต่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะไม่ควรเกินวันละ1ผลเล็กหรือ ½ ผลใหญ่ 2. แอปเปิ้ลเขียว เป็นหนึ่งในผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือคนที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ซึ่งในแอปเปิ้ลเขียว มีน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวค่อนข้างสูงทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็ว อีกทั้งในแอปเปิ้ลเขียวยังมีไฟเบอร์ที่สามารถละลายในน้ำได้ดี คนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากจะช่วยลดโอกาสเกิดเบาหวานได้น้อยกว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย ส่วนใครที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ 3.กล้วย  เป็นผลไม้ที่มีกากใยที่สูงจะช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด เเละช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ควรทานในปริมาณ 1 ผล/มื้อ…

“ดีจริงหรือแค่กระแส” เคยได้ยินกระแสกันไหมของช่วงหนึ่งในชีวิตที่คนกำลังลดน้ำหนักออกมาพูดว่าให้กินน้ำตาลเทียมมากกว่าน้ำตาลแท้กัน ไหนจะช่วงนั้นกระแสของเครื่องดื่มน้ำอัดลมก็ออกสูตรไม่มีน้ำตาลออกมา ทำให้ตอนนั้นคนส่วนใหญ่คิดว่าการกินน้ำตาลเทียมช่วยให้ลดน้ำหนักหรือไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ กระแสนี้ก็ยังคงมีมาเรื่อย ๆ ให้เห็นกันในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีคนออกมาเตือนเรื่องของกรณีนี้แล้ว ฉะนั้นพวกเรามาตามติดกระแสนี้กันกับ น้ำตาลเทียม ลดน้ำหนักได้จริงไหม? จริงหรือหลอก แก้ก่อนที่จะเริ่มติดกันดีกว่า.. “น้ำตาลเทียม” คืออะไร ? น้ำตาลเทียม คือ กลุ่มสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติ มีรสชาติที่หวานคล้ายน้ำตาลแต่ให้พลังงานแคลอรีต่ำหรือไม่ให้พลังงานเลยขึ้นอยู่กับชนิดนั้น ๆ จึงทำให้ช่วงหนึ่งได้ถูกหยิบยกขึ้นมาให้เป็นทางเลือกกับคนที่รักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมแคลอรี่ น้ำตาลเทียมได้ถูกนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและใส่ใจสุขภาพ โดยกลุ่มที่นำมาผลิตส่วนใหญ่ที่เรารู้จักคือ แอสพาร์เทม แซ็กคาริน แอซีซัลเฟมโพแทสเซียม ซูคราโลส และนีโอแทม เป็นต้น น้ำตาลเทียมดีต่อสุขภาพ และลดน้ำหนักได้จริงไหม ? วารสารของสมาคมการแพทย์ของประเทศแคนาดาได้ออกผลการวิจัยไว้ว่า “เครื่องดื่มน้ำตาลเทียมอาจไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และยังเพิ่มโอกาสความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว” ทำให้มีการวิจัยเพิ่มขึ้นจากข้อน่าสนใจนี้ว่า การดื่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ใส่น้ำตาลธรรมชาติทำให้เกิดความเสี่ยงจากโรคอ้วนเพิ่มขึ้นที่ 18%…

แพทย์เตือน ใช้ผ้าขนหนูเกิน 3 วัน โดยไม่ซักทำความสะอาด เสี่ยงเจอเชื้อโรคกว่า 80 ล้านตัว ยิ่ง 1 สัปดาห์อาจเจอกว่าร้อยล้าน ไม่ต่างจากเช็ดตัวด้วยโถส้วม ซึ่งจำนวนแบคทีเรียบนผ้าขนหนูจะเพิ่มขึ้นตามความถี่ในการใช้งาน วิธีการทำความสะอาด และสภาพแวดล้อมในการอบแห้ง หากผ้าเช็ดตัวไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างเหมาะสมนั่นเอง โดยแบคทีเรีย ที่ติดมากับผ้าเช็ดตัว ได้แก่ เชื้อรา, E. coli ที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร และ Staphylococcus aureus ที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ลมพิษ สิว เกิดโรคทางเดินหายใจ การอักเสบ อาการแพ้ ผมร่วง ไปจนติดเชื้อทางเดินปัสสาวะตามรายงานยังแสดงให้เห็นการติดเชื้อในกระแสเลือดและการติดเชื้อหนองในที่เกิดจากเชื้ออีโคไล และซาลโมเนลลาที่ดื้อยาเพิ่มขึ้นด้วย วิธีการซักผ้าขนหนู เนื่องจากผ้าขนหนูเป็นแหล่งสะสมของคราบเหงื่อไคล และไขมันจากร่างกาย คราบผงซักฟอก คราบเครื่องสำอาง…