การปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต 8 ด้าน จะทำให้อายุยืนได้เพิ่มมากขึ้นอีกถึง 24 ปี โดยจะมีประโยชน์ ดังนี้ – เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 40 ปีจะอายุยืนเพิ่มขึ้น 24 ปี เท่ากับ 64 ปี – เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 50 ปีจะอายุยืนเพิ่มขึ้น 21 ปี เท่ากับ 71 ปี – เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 60 ปีจะอายุยืนเพิ่มขึ้น 18 ปี เท่ากับ 78 ปี *หากเป็นผู้หญิงอายุยืนเพิ่มขึ้นมากสุด 22.6 ปี (น้อยกว่าผู้ชายที่ 24…

เมนู คู่มือและเทคนิค คือแหล่งรวบรวมความรู้ การขาย การเงิน การลงทุนต่าง ๆ จากผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยให้การขายของคุณง่ายยิ่งขึ้น วิธีการลงทะเบียน ขั้นตอนที่ 1 ให้ผู้ใช้งานไปที่เมนูบัญชี แล้วเลือก “คู่มือและเทคนิค” ขั้นตอนที่ 2 กรณีเข้าใช้งานครั้งแรก ระบบจะขอใช้งานข้อมูลพื้นฐาน ให้ผู้ใช้งานกดปุ่ม “อนุญาต” ขั้นตอนที่ 3 ให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูล เพื่อเชื่อมต่อกับ ระบบ Rocket Skill เมื่อเรียบร้อยแล้ว กด “ยืนยัน” ขั้นตอนที่ 4 ระบบจะแสดง เงื่อนไขและข้อกำหนด/นโยบายความเป็นส่วนตัว เมื่ออ่านครบถ้วนแล้ว กด “ปิด” ขั้นตอนที่ 5…

การกินผลไม้ที่ว่ามีประโยชน์แล้ว หากกินให้ถูกเวลาก็จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย วันนี้เรามี 4 วิธีกินผลไม้มาแนะนำ ในช่วงเช้า กลางวัน ช่วงก่อนออกกำลังกาย และช่วงเย็น แต่ละเวลาควรกินผลไม้อะไรแล้วดี ไปดูกัน ช่วงเช้า การกินผลไม้ในตอนเช้าจะช่วยทำให้เรามีพลังไปตลอดทั้งวัน โดยแนะนำให้เลือกกินผลไม้ให้หลากหลายชนิด ซึ่งผลไม้ที่ดีสำหรับตอนเช้า เช่น สับปะรด เชอร์รี กีวี สตรอว์เบอร์รี และแอปเปิ้ล โดยสับปะรดและเชอร์รีนั้นมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ช่วยควบคุมความดันโลหิต และช่วยลดโรคหัวใจได้ ส่วนกีวีมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในขณะที่แอปเปิ้ล หากกินตอนเช้าก็จะช่วยดีท็อกซ์และลดไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี ช่วงกลางวัน สำหรับช่วงเวลากลางวัน ช่วงนี้เราสามารถกินผลไม้หวาน ๆ ที่มีน้ำตาลได้ เพราะอย่างไรแล้วน้ำตาลในผลไม้ก็ถือเป็นน้ำตาลธรรมชาติ และในช่วงเวลานี้ร่างกายของเราจะต้องการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อย่อยอาหาร โดยเฉพาะผลไม้อย่างกล้วยและมะม่วง ซึ่งถือเป็นแหล่งของน้ำตาลและพลังงาน กินแล้วทำให้เรารู้สึกตื่นจากความเหนื่อยล้าในช่วงบ่าย ๆ ได้ ช่วงก่อนออกกำลังกาย…

การที่เราตดนั้นเป็นกระบวนการปกติของร่างกาย มนุษย์ทุกคนล้วนต้องตดเพื่อระบายแก๊สจากการย่อยอาหาร แต่ถ้าใครที่ตดมาก ๆ อาจเกิดจากแก๊สสะสมในกระบวนการย่อยอาหารที่มากเกินไป โดยการกินอาหารที่มีแก๊สมาก เช่นเครื่องดื่มน้ำอัดลม พืชตระกูลถั่ว หรืออาหารพวกแป้งที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดการสะสมแก๊สจนเราเผลอตดออกมาบ่อย ๆ เช่น การหายใจ  เคี้ยวหมากฝรั่ง อมลูกอม ใช้หลอดดื่มน้ำ สูบบุหรี่ หรือแม้แต่การกินอาหารเร็วเกินไป แล้วตดจะบอกอะไรได้บ้าง ? ความมหัศจรรย์ของร่างกายเรานั้นมีอยู่ในทุก ๆ ที่ โดยมันสอดประสานกันอย่างเป็นระบบ ขนาดที่ “ลมตด” ยังสามารถสามารถบ่งบอกสุขภาพภายในของสำไส้ได้ด้วย ลองมาเช็กดูว่าคุณตดแบบไหนกันบ้าง ? 1. กลิ่นของตดกลิ่นของตดเกิดจากแก๊สที่มีกลิ่นจากการหมักหมมของอาหารในลำไส้ ถึงแม้ว่าในตดมีแก๊สที่มีกลิ่นเพียง 1-2% เท่านั้นแต่มันก็เพียงพอที่จะสร้างกลิ่นที่สยองออกมาได้ ดังนั้นกลิ่นตดจะแรงไม่แรงนั้นจึงขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินเข้าไป โดยเฉพาะถ้าหากเรากินอาหารจำพวกโปรตีนสูงพวกเนื้อสัตว์ ไข่ หรือพืชตระกูลถั่ว และผักที่มีเส้นใยสูงและมีกลิ่นที่แรงเช่น คะน้า…

ผลไม้เป็นอาหารที่ให้วิตามินและแร่ธาตุแก่ร่างกายหลายคนคงจะคุ้นเคยกันแล้วซึ่งผลไม้มีทั้งรสเปรี้ยว รสหวาน หวานน้อย หวานมาก แต่ผลไม้ชนิดไหนบ้างที่ปริมาณน้ำตาลพุ่งสูงปรี๊ด ที่ต้องควรระวังเวลากิน และกินในปริมาณที่เหมาะสม ดูเลย 1. ทุเรียน ทุเรียน ผลไม้ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบกัน ทั้งทุเรียนสด และการนำไปแปรรูป เช่น ข้าวเหนียวทุเรียนราดด้วยกะทิ ซึ่งทุเรียน 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 21 กรัม 2. ละมุด ละมุดผลไม้ที่มีความหวานเฉพาะตัวอย่างมาก และเป็นผลไม้ที่มีเฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น ลูกละมุดหากยังไม่สุกมากจะมีความกรอบ หวาน แต่เมื่อสุกมากเนื้อจะนุ่ม และให้รสหวานจัด ซึ่งละมุด 100 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 17 กรัม ดังนั้นจึงควรทานแต่พอดี ไม่มากเกินไป…