คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง.. สัญญาณของคนแพ้

ภูมิแพ้ อาจเกิดจากพันธุกรรม หรืออาจเกิดจากสิ่งแวดล้อม การได้รับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเป็นตัวกระตุ้น แม้ว่าอาการที่เกิดขึ้นจะดูแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดมีกระบวนการเกิดลักษณะเดียวกัน

เช็คอาการแพ้แต่ละแบบ

1. แพ้อากาศ (Allergic Rhinitis)

เป็นอาการแพ้ที่มีแนวโน้มจะมาจากกรรมพันธุ์มากที่สุด (โรคภูมิแพ้) ผู้ที่แพ้อากาศจะไวต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะอากาศร้อน อากาศเย็น ความชื้น ความแห้ง หรือง่าย ๆ ก็คือแค่อากาศเปลี่ยนก็สามารถแสดงอาการแพ้ออกมาได้

สัญญาณของโรคภูมิแพ้อากาศ : อาการของโรคภูมิแพ้อากาศที่พบบ่อยคือ คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม คันจมูก บางรายอาจปวดศีรษะ หูอื้อ เจ็บหูด้านหลัง รู้สึกมึนและอ่อนเพลียหลังตื่นนอน รวมถึงมีภาวะแทรกซ้อนจากโรค เช่น ไซนัส นอนกรน และหูชั้นกลางอักเสบ คันที่ตา คอ หู หรือเพดานปาก ปวดศีรษะ เสียงเปลี่ยน และจมูกไม่ได้กลิ่น มูกไหลลงคอ ไอ เจ็บคอเรื้อรัง หูอื้อ หรือมีเสียงดังในหู อ่อนเพลียจากการอดนอน เปลือกตาบวม

2. แพ้สัตว์เลี้ยง  (Pet Allergy)

โรคภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง หรือ อาการภูมิแพ้สัตว์เลี้ยงเป็นภาวะที่ผู้เลี้ยงนั้นมักแพ้โปรตีนที่พบได้มากตามเซลล์ผิวหนัง ขน น้ำลาย และน้ำปัสสาวะของสัตว์ จนส่งผลให้เกิดอาการหอบหืด อาการคัน จาม ซึ่งสาเหตุหลักที่อาจทำให้คุณประสบกับโรคภูมิแพ้สัตว์เลี้ยงนั้น เป็นไปได้ว่ายังอาจมาจากที่ระบบภูมิคุ้มกันของคุณมีการทำงาน เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ที่เข้าไป จนทำให้เกิดปฏิกิริยา หรือกลไกการป้องกัน และออกมาในรูปแบบอาการแพ้ขึ้น

สัญญาณของโรคภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง : เมื่อคุณได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย ภายในระยะเวลา 15-30 นาที หรือหลังจากนั้น อาจทำให้คุณเริ่มมีสัญญาณเตือนบางอย่าง ซึ่งบ่งบอกได้ว่า คุณอาจกำลังประสบกับอาการภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยงอยู่ เช่น อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม คันบริเวณรอบ ๆ ดวงตา จนถึงขั้นน้ำตาไหลออกมา คันช่องปาก ลำคอ ใบหน้าบวม คันผิวหนัง ผื่นแดงขึ้นเป็นบางจุดตามร่างกาย

นอกจากอาการข้างต้นแล้วโรคภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง ยังอาจทำให้คุณนั้นเสี่ยงเป็นโรคหอบหืดได้อีกด้วย ซึ่งมักจะให้คุณมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก มีปัญหาในการนอนหลับที่ผิดปกติเนื่องจากอาการไอ และจามตลอดเวลา

3. แพ้เกสรดอกไม้ (Pollen Allergy)

ละอองเกสรจากดอกไม้หรือพืชบางชนิด เช่น หญ้า ไม้ยืนต้น หรือวัชพืชบางชนิด เป็นละอองที่มีลักษณะเป็นผง มีขนาดเล็ก สามารถลอยปะปนอยู่ในอากาศ เมื่อคนที่มีอาการแพ้เกสรดอกไม้สูดเอาอากาศที่ปนละอองเหล่าเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเริ่มตอบสนองต่อละอองเกสรจนเกิดอาการแพ้ขึ้น อีกทั้งผู้ที่เป็นโรคหืดอยู่ก่อนแล้วอาจมีอาการแย่ลงได้ ส่วนคนที่ไม่มีอาการแพ้จะไม่เกิดอาการใด ๆ

สัญญาณของโรคภูมิแพ้เกสรดอกไม้ :
ตา : ตาแดง คันตา เคืองตา น้ำตาไหล
จมูก : จมูกอักเสบ มีน้ำมูกใส ๆ น้ำมูกไหล หายใจติดขัด ไอ จาม หายใจมีเสียงหวีด
ผิวหนัง : มีผื่นคัน ผื่นลมพิษ อาจมีอาการผิวหนังอักเสบ
ปอด และหลอดลม : หลอดลมหดเกร็ง หอบ ไอ มีเสมหะ
ต่อมหลังเมือก : ทําให้มีการเพิ่มขึ้นของน้ำมูก เสมหะ

การรักษาอาการภูมิแพ้

1. การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ก็คือการหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้ และถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติที่ชะช่วนเสริมสร้างให้ร่างการมีความแข็งแรง โดยออกกำลังกานอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน เช่น วิ่ง เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้ความไวของเยื่อบุจมูก/หลอดลมลดลง และทำให้มีภูมิต้านทานต่อหวัดอีกด้วย

3. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ รวมทั้งผักและผลไม้ รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่เสมอ

4. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรเข้านอนดึกจนเกินไป เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูปรับสมดุลได้อย่างเพียงพอ

5. สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์ใช้เครื่องนอนที่มีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่น และซักทุกสัปดาห์ รวมถึงการทำความสะอสดบ้านทุกสัปดาห์

6. รับประทานยาแก้แพ้ แต่ข้อเสียของยาแก้แพ้ คือ ทำให้ง่วง เจริญอาหาร ปัสสาวะลำบากในผู้ชาย ดื้อยา ต้องรับประทานยาทุกวันแต่ถ้าหากเราเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน อย่าง IMMU-V Plus ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและปอด จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อหวัดต่าง ๆ ลดความถี่และความรุนแรงของอาการหวัด ช่วยลดอาการของโรคภูมิแพ้ได้นั่นเอง