ถ้าพูดถึงอวัยวะของร่างกายคนเรานั้น ดวงตา นั้นนับว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญมากที่สุด เพราะฉะนั้นเราควรจะถนอมรักษา หรือว่าบำรุงให้มีอายุการใช้งานที่นาน และมีคุณภาพที่ดี โดยการเลือกทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ดังนี้
1. วิตามินเอ (Vitamin A)

เป็นสารที่ช่วยในการทำงานของจอประสาทตา และมีบทบาทสำคัญในการมองเวลากลางคืน ซึ่งพบมากในผักจำพวก ชะอม คะน้า ยอดกระถิน ตำลึง ผักโขม ฟักทอง ผักชีฝรั่ง พริกสีแดง ลูกพรุน ปลาทู สาหร่ายอบแห้ง เนยสด มาร์การีน ครีม วอเตอร์เครส และซอสพริก
2. วิตามินบี (Vitamin B)

มีการศึกษาพบว่า วิตามิน B1 และวิตามินB 12 อาจมีบทบาทในการชะลอการเกิดต้อกระจกได้ โดยแหล่งที่มีวิตามิน B มาก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ตับ และนมสด
3. วิตามินซี (Vitamin C)

เป็นที่รู้จักกันดีของการชะลอความแก่ของร่างกาย เพราะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) นอกจากนั้นยังจะช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้อีกด้วย ผลไม้ที่มี วิตามินซี มาก มีใน ฝรั่ง ส้ม สับปะรด และมะขามป้อม ส่วนผักก็จะมีมากใน กะหล่ำดอก และบร็อกโคลี
4. วิตามินอี (Vitamin E)

เป็นวิตามินอีกตัวหนึ่งที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีอยู่ในเซลล์รับแสงที่จอประสาทตา และจากการศึกษาพบว่าอาจจะมีบทบาท ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก ซึ่งพบแหล่งอาหารวิตามิน E มากในอาหารประเภท น้ำมันธัญพืช น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย ข้าวโพด และถั่วเหลือง อาหารจำพวกถั่ว
5. สังกะสี (Zinc)

จะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยในการทำให้จอประสาทตาเสื่อมที่เป็นอยู่แล้วเป็นช้าลง โดยแหล่งที่พบสังกะสี ได้แก่ ตับ หอยนางรม เนื้อไก่ เนื้อหมู กุ้ง ปู หอย (โดยเฉพาะหอยนางรม) ในผัก เช่น ผักโขม มันฝรั่ง มะเขือเทศ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี เมล็ดฟักทอง ถั่วลิสง งา ในผลไม้ ได้แก่ มะม่วง แอปเปิ้ล สับปะรด
6. ซีลีเนียม (Selenium)

เป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก จะพบได้มากใน หอยนางรม หอยลาย ตับไก่ และเมล็ดทานตะวัน
7. ลูทีน และซีแซนทิน (Llutein ,Zeaxanthin)

เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในจุดรับภาพที่จอประสาทตา และเลนส์ตา มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาพบว่ามีส่วนช่วยในการชะลอการเกิดต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ พบมากใน บร็อกโคลี ข้าวโพด และไข่แดง
8. เบต้าแคโรทีน (Betacarotene)

เป็นสารตั้งต้นของวิตามิน A ซึ่งมีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยในการมองเห็นในกลางคืน เช่นเดียวกับวิตามิน A จะพบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น มะปราง มะยงชิด แครอท ลูกพลับ ลูกพีท มะม่วงสุก แอปริคอท มะละกอ ผักบุ้ง หน่อไม้ฝรั่ง และข้าวโพดอ่อน
9. โอเมก้า 3 (Omega-3)

เป็นกรดไขมันที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะตาแห้ง ซึ่งพบมากในอาหารประเภทปลาทะเล ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน และในผลไม้ก็มีส่วนมากพบได้มาก จากผลกีวี
10. สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba)

คุณสมบัติคือเพิ่มเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงที่สมอง แล้วยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และนอกจากนี้ยังจะช่วยรักษาลานสายตาผิดปกติในต้อหินบางชนิดได้ด้วย
เลือกทานอาหารที่ดีต่อสายตาแล้ว ดูแลให้ดียิ่งขึ้นด้วย Veta-D+ (วีต้าดี พลัส) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จะช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันความเสื่อมจอประสาทตา พร้อมบำรุงสายตาให้มีการมองเห็นที่ดี ทำให้ดวงตาสดใสมีแววประกาย
