เวียนหัว กับมึนหัว ต่างกันอย่างไร ?

อาการเวียนหัวและมึนหัว เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนปกติทั่วไป และส่วนใหญ่มักจะแยกแยะไม่ค่อยออกว่าเวียนหัวหรือมึนหัวกันแน่ บางคนยังเอาไปปนกับอาการปวดหัวอีก เรามาเช็กอาการกันเลย

อาการเวียนหัว

คือ อาการที่รู้สึกเหมือนสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนได้ ในขณะที่ตัวคนยืนหรือนั่งอยู่กับที่ หรือตัวเองหมุน ทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหว มีเดินเซ ล้ม หรือทรงตัวไม่ได้ รวมไปถึงรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน ลูกตามีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และอาการเกี่ยวกับการได้ยิน เช่น หูอื้อ มีเสียงดังรบกวนในหู

สาเหตุ ได้แก่
– โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน
– โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
– การบาดเจ็บบริเวณศีรษะและคอ
– ความผิดปกติของสมอง
– การใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อระบบประสาทการทรงตัวในหูชั้นใน

การรักษาอาการเวียนหัว
การรักษาอาการเวียนหัวนั้น ถ้าเป็นเพียงเล็กน้อยหรือเป็นพัก ๆ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่นก็ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ ให้ฝึกหัดฝืนความรู้สึกเอาไว้ ฝึกทรงตัวให้มั่นชั่วครู่ ทำอย่างนี้บ่อย ๆ ต่อไปจะหายเอง แต่ถ้าทนไม่ไหวให้กินยาแก้เมารถเมาเรือ ครั้งละครึ่งถึง 1 เม็ดเมื่อมีอาการ แต่ถ้าพบว่ามีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น กลืนลำบาก พูดไม่ชัด เห็นภาพซ้อน สำลักบ่อย ชาตามตัว ชัก หรือเป็นอัมพาต ต้องรีบไปหาหมอทันทีเพราะแสดงถึงความผิดปกติของสมอง

อาการมึนหัว

คือ กลุ่มคนไข้ที่มาบอกว่าตัวเองมีอาการมึนงง มึนหัว หรือรู้สึกเวียนหัวเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีอาการบ้านหมุน หรือสิ่งรอบตัวหมุน อาจรู้สึกเหมือนศีรษะเบา ๆ ลอย ๆ คล้ายจะหน้ามืด อาการแบบนี้มักสัมพันธ์กับแรงดันเลือดและปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ

สาเหตุได้แก่
– พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด
– ร่างกายขาดน้ำ เช่น ท้องเสีย อาเจียน
– การเปลี่ยนท่าเร็วเกินไป เช่นนอนอยู่แล้วลุกขึ้นทันที
– ภาวะโลหิตจาง
– เป็นร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่นเป็นไข้หวัด

การรักษาอาการมึนหัว
การรักษาอาการมึนหัวนั้นจะเน้นรักษาที่สาเหตุมากกว่าการให้ยาบรรเทา (เช่น ให้ยาคลายเครียด ยานอนหลับ) เพื่อให้พักผ่อนได้มากขึ้น เน้นให้แก้ไขที่สาเหตุ เช่น พยายามนอนให้เพียงพอไม่มากไปหรือน้อยไป ออกกำลังกายสม่ำเสมอ