
แพทย์เตือน ใช้ผ้าขนหนูเกิน 3 วัน โดยไม่ซักทำความสะอาด เสี่ยงเจอเชื้อโรคกว่า 80 ล้านตัว ยิ่ง 1 สัปดาห์อาจเจอกว่าร้อยล้าน ไม่ต่างจากเช็ดตัวด้วยโถส้วม
ซึ่งจำนวนแบคทีเรียบนผ้าขนหนูจะเพิ่มขึ้นตามความถี่ในการใช้งาน วิธีการทำความสะอาด และสภาพแวดล้อมในการอบแห้ง หากผ้าเช็ดตัวไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างเหมาะสมนั่นเอง
โดยแบคทีเรีย ที่ติดมากับผ้าเช็ดตัว ได้แก่ เชื้อรา, E. coli ที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร และ Staphylococcus aureus ที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ลมพิษ สิว เกิดโรคทางเดินหายใจ การอักเสบ อาการแพ้ ผมร่วง ไปจนติดเชื้อทางเดินปัสสาวะตามรายงานยังแสดงให้เห็นการติดเชื้อในกระแสเลือดและการติดเชื้อหนองในที่เกิดจากเชื้ออีโคไล และซาลโมเนลลาที่ดื้อยาเพิ่มขึ้นด้วย

วิธีการซักผ้าขนหนู
เนื่องจากผ้าขนหนูเป็นแหล่งสะสมของคราบเหงื่อไคล และไขมันจากร่างกาย คราบผงซักฟอก คราบเครื่องสำอาง สารเคมีตกค้างหรือแม้แต่แร่ธาตุจากน้ำกระด้างที่เกาะติดบนเส้นใยผ้า ดังนั้นการซักผ้าขนหนูให้สะอาด และถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญ

1. ควรแยกซักผ้าขนหนูออกจากผ้าชนิดอื่น โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่มีรอยเปื้อน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปผ้าชนิดอื่น ๆ

2. น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชู ช่วยให้ผ้าขนหนูนุ่มฟูได้ ให้คุณนำผ้าขนหนูไปแช่น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชูก่อนที่จะซักประมาณ 5 นาที

3. ใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่พอดีกับปริมาณผ้าขนหนูที่จะซัก หรือใช้ปริมาณเพียงครึ่งนึงจากที่ใช้ปกติ ไม่เช่นนั้น อาจจะล้างเศษผงซักฟอกที่มากเกินไปไม่สะอาด แล้วมาติดอยู่ตามซอกของใยผ้าขนหนู จะทำให้ผ้าขนหนูแข็งหรือเสียได้

4. ควรซักผ้าขนหนูด้วยน้ำร้อน เพื่อกำจัดคราบสกปรก เชื้อโรค เเละเเบคทีเรีย

5. ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทุก ๆ การซัก 2 หรือ 3 ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งานของผ้าขนหนู เนื่องจากน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำให้ผ้าขนหนูซึมซับน้ำได้น้อยลง แต่ทำให้ผ้าขนหนูนุ่มฟูน่าใช้

6. ผ้าที่ถูกปั่นรวมกัน เมื่อนำออกจากเครื่อง ควรสะบัดผ้าก่อนตาก เพื่อให้เส้นใยผ้ายืดเต็มที่ รักษาความนุ่มฟูของเนื้อผ้าได้

7. ไม่ควรตากผ้าขนหนูไว้กลางแดดนานเกินไป เพราะอาจทำให้ผ้าแห้งแข็ง และหยาบกระด้างได้
