เหตุผล ที่ไม่ควรเปิดพัดลมจ่อหน้า

การนอนโดยเปิดพัดลม อาจมีประโยชน์สำหรับบางคนและบางสถานการณ์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการเปิดพัดลมนอน และการเปิดพัดลมจ่อตรง ๆ ใส่หน้าและตัวขณะนอนหลับยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

ข้อดีของการเปิดพัดลมขณะนอนหลับ
การเปิดพัดลมขณะนอนหลับตอนกลางคืน จะช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย จึงนอนหลับได้ดี (กรณีที่ไม่มีแอร์) ช่วยปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เย็นเร็วขึ้น (กรณีเปิดแอร์)  ช่วยให้อากาศในห้องนอนไหลเวียนมากขึ้น ช่วยให้ห้องไม่อับชื้น เสียงเบา ๆ ของพัดลมเรียกว่า “เสียงขาว” ช่วยให้หลับได้ดีขึ้น ช่วยป้องกัน Sudden Infant Death Syndrome (SIDS) หรือภาวะไหลตายในเด็กได้ เนื่องจากการเปิดพัดลมช่วยลดอุณหภูมิและลดความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในห้องนอนได้

ข้อเสียของการเปิดพัดลมขณะนอนหลับ
การเปิดพัดลมนอนก็อาจไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนขี้ร้อนหากอยากเปิดพัดลมขณะนอนตอนกลางคืน ต้องรู้จักวิธีใช้พัดลมให้ถูกต้อง คือไม่ควรเปิดจ่อใส่ตัวหรือใบหน้าโดยตรง ซึ่งหากเปิดพัดลมจ่อใส่ตัวเป็นประจำอาจทำให้เกิดผลเสียตามมา คือ

1. อาการภูมิแพ้กำเริบ แพ้ฝุ่น แพ้อากาศ
เมื่อพัดลมเป่าอากาศให้หมุนวนไปรอบ ๆ ห้อง จะทำให้ฝุ่นและละอองเกสรฟุ้งกระจายเข้าสู่จมูกของคนในห้องได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืดอยู่แล้ว ก็ไม่ควรเปิดพัดลมในห้องนอน เพราะจะทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบ หรือทำให้แพ้อากาศได้ ทั้งนี้ควรดูแลทำความสะอาดพัดลมของคุณอยู่เสมอ หากมีฝุ่นสะสมบนใบพัดมาก ๆ เมื่อเปิดใช้งานฝุ่นเหล่านั้นก็จะยิ่งฟุ้งออกมาใส่เรามากขึ้น และทำให้มีอาการไอจามจากการแพ้ฝุ่น

2. ผิวแห้ง คอแห้ง ตาแห้ง ร่างกายขาดน้ำ
เมื่อเปิดพัดลม คลื่นแรงลมจะกระทบผิวกายของคุณอย่างต่อเนื่องทั้งคืน จนอาจทำให้ผิวแห้ง แต่เรื่องนี้สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการทาโลชันหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนนอน แต่สิ่งที่ต้องระวังมากไปกว่านั้นคือ บางคนนอนหลับโดยเปลือกตาปิดไม่สนิท เมื่อเปิดพัดลมจ่อใส่ตัวหรือใบหน้าขณะนอนหลับ กระแสแรงลมจะทำให้ “ดวงตาแห้ง” และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรงได้ ขณะที่บางคนนอนหลับโดยมักอ้าปาก ทำให้แรงลมจากพัดลมที่มากเกินไปทำให้ “ปากแห้งคอแห้ง” ได้ จนต้องตื่นมาจิบน้ำกลางดึก ซึ่งนั่นไม่ดีต่อคุณภาพการนอนหลับ

3. ไซนัสระคายเคือง
การเปิดพัดลมจ่อใส่ตัวทั้งคืนจะทำให้มีแรงลมปะทะมากเกินไป ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้โพรงจมูกแห้ง ซึ่งอาจส่งผลให้ไซนัสระคายเคืองรุนแรง เมื่อโพรงไซนัสในจมูกระคายเคือง ร่างกายของเราจะผลิตเมือกส่วนเกินออกมาเพื่อให้ไซนัสกลับมาชุ่มชื้นเพื่อลดอาการระคายเคือง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะทำให้เมือกอุดตันทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวก และปวดโพรงไซนัสได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

4. ผลเสียทางอ้อม
อาจทำให้การไหลเวียนโลหิตต่ำลง แรงพยุงตัวถดถอย ก็คือ อาจเกิดอาการ “เจ็บกล้ามเนื้อ” โดยหากเราเปิดพัดลมจ่อตัวโดยตรง แรงลมจะกระทบร่างกายต่อเนื่อง หลังจากตื่นนอนอาจมีอาการตึง หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เนื่องจากอากาศเย็นจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งและเป็นตะคริวได้ ปัญหานี้พบได้บ่อยกับคนที่นอนโดยเปิดพัดลมเป่าใส่ใบหน้าและลำคอโดยตรง ซึ่งอาจตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยได้

ดังนั้น เวลานอนไม่ควรเปิดพัดลมเป่าใส่ร่างกายโดยตรง แต่วิธีที่แนะนำคือ ให้เปิดพัดลมโดยหันพัดลมไปในทิศทางอื่น แล้วกดให้พัดลมส่ายไปมา เน้นให้พัดลมทำหน้าที่ช่วยให้อากาศในห้องเคลื่อนตัว มากกว่าจะให้กระแสแรงลมมากระทบตัวโดยตรง นอกจากนี้ยังทำให้เปิดแอร์ (25-28 องศาฯ) แล้วห้องเย็นเร็วขึ้น และประหยัดไฟได้มากขึ้น

ทั้งนี้ สภาพแวดล้อมสำหรับการนอนหลับที่ดีที่สุดคือ การที่อากาศในห้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด แต่ควรเคลื่อนไหวไปอย่างช้า ๆ ในทางกลับกัน หากเปิดพัดลมเป่าร่างกายติดต่อกันตลอดคืนจะทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานเยอะขึ้น จนรู้สึกเหนื่อยและร่างกายอิดโรยหลังตื่นนอนได้นั่นเอง