Skip to content
สิ่งเหล่านี้ใช้กี่วันถึงซักดี ก่อนที่เราจะสูดดม เช็ด สัมผัสกับเชื้อโรคที่หมักมาดูกันว่าสิ่งของเหล่านี้ควรใช้กี่วัน ถึงทำความสะอาดดี
1. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้มักจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และพอเราทำความสะอาดไม่บ่อย เวลาที่เราเอาสิ่งของเหล่านี้ไปวางไว้ที่ไหนก็จะทำให้ที่นั่นค่อย ๆ สกปรกไปเรื่อย เราต้องหมั่นทำความสะอาดเพราะเป็นของที่เราจับทุกวัน
A
2. ฟองน้ำล้างจาน
เมื่อเราทำอาหารเสร็จเราก็ล้างจานเลย โดยฟองน้ำก็ใช้ ๆ ไป เศษอาหารเยอะแค่ไหนก็ปาดได้เต็มที่ ไม่ได้คิดว่ามันจะสะสมสิ่งสกปรกอะไรเพราะสุดท้ายก็ใช้น้ำยาล้างจานอยู่ดี แต่การที่เราไม่ยอมเปลี่ยนหรือทำความสะอาดฟองน้ำที่ใช้มาเลย เราอาจจะได้เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกเพิ่มขึ้นจากการล้างนั่นเอง
3. ตู้เย็น
ตู้เย็น นอกจากจะทำให้มีน้ำเย็น ๆ ไว้ดื่มดับกระหายแล้ว ที่สำคัญตู้เย็นยังช่วยถนอมอาหาร จะทำให้บางทีเราอาจหลงลืมการดูแลตู้เย็นจนปล่อยให้เต็มไปด้วยอาหารที่อาจจะเสียแล้วแต่ไม่รู้ตัว ดังนั้น เราควรทำความสะอาดตู้เย็นให้บ่อยขึ้น อย่างน้อยเดือนละครั้ง ก่อนที่ตู็เย็นจะเกิดความสกปรกจนทำให้ตู้เย็นเสียได้
4. กระเป๋า
ใครหลายคนมักจะมีกระเป๋าหลายใบ และมักจะใช้กระเป๋าแล้วก็นำมาแขวนเก็บไว้เลย โดยที่ไม่ได้ทำความสะอาดเลย แต่กระเป๋าเป็นอีกสิ่งที่เป็นการสะสมความสกปรก เนื่องจากเมื่อเราออกนอกบ้านก็จะยิ่งเจอมลภาวะ สิ่งสกปรกมากมาย เพราะฉะนั้นเราควรนำกระเป๋ามาทำความสะอาดบ้าง เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่ในบ้านนั่นเอง
5. เซ็ททำความสะอาดบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นไม้กวาด หรือไม้ถูพื้น ไม่แปลกที่จะมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ แต่เราอาจไม่ได้ทำความสะอาดอย่างจริงจัง หรือใช้แล้วก็เก็บเข้าที่เดิมทันที ถ้าเราไม่เคยทำความสะอาดเลย นาน ๆ ไป การทำความสะอาดบ้านอาจจะไม่ได้ทำความสะอาด แต่จะยิ่งสกปรกขึ้น เพราะฉะนั้นต้องเอาออกมาทำความสะอาดบ่อย ๆ ด้วย
6. ชุดนอน
ใครที่ชอบใส่ชุดนอนแบบย้วย ๆ หรือมีชุดนอนที่ชอบใส่มาก ๆ ต้องตัวนี้ถึงจะหลับสบาย เลยไม่ได้ทำการซักชุดนอน แต่รู้ไหมว่าตอนที่เราใส่นอนประมาณ 6-10 ชั่วโมงนั้น เศษผิวหนังเล็ก ๆ ที่หลุดออก สารคัดหลั่งที่ออกมาตอนเราหลับ จะไปหมักหมมในชุดนอนได้เยอะเหมือนกัน ดังนั้นใส่นอนสัก 3-4 คืนก็ควรเปลี่ยนซักได้ หรือในช่วงอากาศร้อน มีเหงื่อออก ก็ควรเปลี่ยนชุดใหม่ทุกวันนั้นเอง
7. ผ้าปูที่นอน
สิ่งที่น่าห่วงของผ้าปูที่นอน นั่นคือ ไรฝุ่น เพราะไรฝุ่นจะมากินเศษผิวหนัง เศษหนังหัว เป็นอาหาร นอกจากนี้พวกคราบมัน (หน้ามัน) คราบน้ำลาย หรืออื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่หมักหมมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี จนอาจผื่นคันขึ้นตามตัวได้ ดังนั้นต้องขยันซักผ้าปูที่นอน โดยควรซักทุก ๆ 2 สัปดาห์
8. ปลอกหมอน
สำหรับคนเป็นสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย ปลอกหมอนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ ยิ่งผู้หญิงที่แต่งหน้าทุกวัน ถ้าล้างเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด ก็จะเลอะปลอกหมอนไปเรื่อย ๆ ได้ บางคนที่นอนคว่ำหน้า หรือ นอนตะแคง ก็อาจกลายเป็นนอนสูดเชื้อโรคที่สะสมในปลอกหมอนเข้าไปตลอดคืน ดังนั้นปลอกหมอนจึงควรซัก 1 ครั้ง/สัปดาห์
