สีตาสามารถบอกโรคได้ เพราะความผิดปกติ และสัญญาณเตือนโรคร้ายหลาย ๆ อย่างก็แสดงออกและสามารถสังเกตได้จากความเปลี่ยนแปลงของดวงตา
โรคอะไรบ้างที่แสดงอาการผ่านทางดวงตา ?

ดวงตาดำคล้ำ
เมื่อเรามีอาการภูมิแพ้ มักจะทำให้เกิดความรู้สึกคันบริเวณรอบดวงตา และอาจมีการขยี้ ซึ่งจะทำให้เปลือกตาบริเวณรอบ ๆ เกิดการช้ำ และเห็นเป็นสีดำคล้ำได้

ตาขาวมีสีเหลือง
เกิดจากตับทำงานผิดปกติ ตับอักเสบ ดีซ่าน โรคความปกติทั้งหลายเกี่ยวกับตับ และท่อน้ำดี มักจะแสดงอาการออกมาผ่านดวงตาในลักษณะของอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หลัก ๆ แล้ว เกิดจากการที่ร่างกายมี “สารบิลิรูบิน (Bilirubin)” สะสมอยู่ในเลือดมากเกินไป ซึ่งโรคที่ส่งผลต่อระดับสารบิลิรูบิน ก็ได้แก่ ดีซ่าน ไวรัสตับอักเสบบี นิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งตับ มะเร็งเนื้อเยื่อบริเวณรูเปิดของท่อน้ำดี และมะเร็งลำไส้เล็กดูโอนัม (Duodenum)

ตาขาวมีสีแดง
เกิดจากตาระคายเคือง ตาติดเชื้อหรืออักเสบ โดยทั่วไปแล้วอาการตาแดงมักจะเกิดขึ้นเมื่อดวงตารู้สึกระคายเคือง หรือมีสิ่งผิดปกติ เช่น ฝุ่น ควัน เข้าใกล้หรือสัมผัสกับดวงตา รวมถึงอาการภูมิแพ้ และการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดก็ทำให้เกิดภาวะแดงได้ หากรู้สึกว่าระคายเคืองมาก หรือรบกวนการใช้ชีวิต ขอแนะนำให้รีบปรึกษาจักษุแพทย์

ตาขาวมีจุดเหลืองที่หัวตา
เสี่ยงภาวะต้อลม โรคต้อลม คือโรคที่เกิดจากภาวะที่เยื่อบุบริเวณตาขาว โดนลมหรือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดมาเป็นเวลานานๆ จนทำให้เกิดการหนาตัวขึ้น ทำให้บริเวณที่เยื่อบุตาหนาขึ้นจะมีสีเข้มกว่าเยื่อบุตาบริเวณอื่นที่เป็นสีขาว

ตาดำมีสีขาวขุ่น
เสี่ยงภาวะต้อกระจกเมื่อเกิดภาวะต้อกระจก เลนส์ตาจะขุ่นทำให้แสงผ่านเลนส์ตาไปยังจอประสาทตาน้อยลง ทำให้การมองเห็นลดลงเกิดอาการตามัวขึ้น เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากเริ่มสังเกตเห็นว่าที่ตาดำของเรามีสีขาวหรือขุ่น ก็ควรรีบไปปรึกษาจักษุแพทย์

ตาดำมีสีเขียว
บอกภาวะต้อหิน โรคต้อหิน คือ ภาวะที่เกิดจากความดันภายในลูกตาสูงผิดปกติ หรือใยประสาทตา ขั้วประสาทตาถูกทำลาย ทำให้ลานสายตาแคบลงเรื่อย ๆ โดยการมองเห็นของผู้ป่วยจะไม่ได้พร่ามัวเหมือนต้อกระจก หลายครั้งจึงอาจไม่รู้สึกตัวว่ามีภาวะต้อหิน หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ประสาทตาถูกทำลายไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้ตาบอดในที่สุด อาการที่ตาดำมีสีเขียวอาจเป็นลักษณะของคนที่มีภาวะต้อหินแต่กำเนิด
นี่เป็นเพียงวิธีการสังเกตโดยเบื้องต้นเท่านั้น หากต้องการการวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำ แนะนำให้ทุกคนเข้าไปปรึกษากับจักษุแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีที่สุด และเราควรดูแลสายตาด้วยการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง Veta-D+ (วีต้าดี พลัส) รวมสารสกัดมากกว่า 13 ชนิด ที่จะช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันความเสื่อมจอประสาทตา พร้อมบำรุงสายตาให้มีการมองเห็นที่ดีขึ้น
