ถ่ายไม่ออก!! รวม 5 สาเหตุที่ทำให้เราท้องผูก

1. ได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอ
อาจเกิดจากการกินผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์ต่ำ และมีน้ำตาลสูง เช่น ผลไม้รสหวานต่าง ๆ เช่น ทุเรียน ขนุน ลำใย ซึ่งปริมาณไฟเบอร์ที่แนะนำต่อวันเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีคือ 25 กรัม/วัน ถ้าหากเรากินผักผลไม้ให้ได้วันละ 400 กรัม จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ รวมถึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติด้วยเช่นกัน ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ เช่น พริกหวานสีแดง ผักใบต่าง ๆ ผักคะน้า ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ลเขียว แนะนำให้กินผักใบต่าง ๆ อย่างน้อยมื้อละ 1 ทัพพี

2. ได้รับไฟเบอร์มากเกินไป
หากกินผลไม้ ไม่ควรกินทั้งลูก เพราะจะทำให้ได้รับไฟเบอร์มากเกินไป และทำให้เกิดอาการท้องอืด อึดอัด ไม่สบายท้อง ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารย่อยไฟเบอร์มากจนเกินไปจึงเกิดแก๊สในกระเพาะนั่นเอง

3. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
หากเรากินอาหารที่เป็นแหล่งของไฟเบอร์เพียงพอแล้ว แต่ดื่มน้ำน้อยก็จะส่งผลให้ขับถ่ายยากกว่าเดิม ซึ่งคนเราควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตร/วันเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และดีต่อระบบขับถ่ายโดยเฉพาะในมื้อเช้า ตื่นนอนควรดื่มน้ำ 1 – 2 แก้วเพื่อเป็นการกระตุ้นระบบขับถ่าย

4. ขาดการออกกำลังกาย
เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลำไส้ได้ฝึกการเคลื่อนไหว

5. ไม่ได้ฝึกวินัยในการขับถ่าย
เราควรฝึกวินัยในการขับถ่ายให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะถ้าไม่ได้ฝึกจะทำให้ร่างกายมีอาการท้องผูก โดยเราควรฝึกการขับถ่าย เช่น หลังตื่นนอนจะต้องเข้าห้องน้ำทุกครั้งเพื่อให้ร่างกายมีการขับถ่ายให้เป็นเวลานั่นเอง