Skip to content
ตาเป็นอวัยวะที่เปราะบาง และสำคัญมาก ๆ เพราะดวงตาก็เหมือนความรัก ตอนมีไม่รักษาไว้ ตอนไปก็ยื้อแทบไม่ทัน กว่าจะรู้ได้ว่าตาเราเปลี่ยนไปแค่ไหนก็อาจสายเกินแก้ สาเหตุก็มาจากการใช้สายตาที่หักโหมเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอทำตาล้า และยังขาดการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกก็ยิ่งทำให้ดวงตาเราแย่เข้าไปใหญ่
มาสังเกตุอาการของตาแต่ละแบบกันว่าเกิดจากอะไร
1. ตาแห้ง
เกิดจากการตากแดด ตากลม ความชื้นในตาจึงระเหยออกไปเยอะ การจ้องหน้าจอนาน ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาไม่ค่อยกะพริบ น้ำตาจึงถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาน้อย หรืออาจเกิดจากการใช้ยาบางประเภท ความผิดปกติของเปลือกตา เช่น ตาปิดไม่สนิทตอนนอน ตากะพริบน้อยผิดปกติ หรือต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน เป็นต้น
อาการที่เห็นได้ชัดเจนคือ รู้สึกเคือง ๆ ตา ไม่สบายตา เหมือนมีอะไรอยู่ข้างใน แสบตา ตาล้าง่าย ตาแดง สู้แสงไม่ได้ (แบบนี้จะทำให้น้ำตาไหลออกมามาก เพราะเคืองตาจากการโดนแดด บางคนอาจเข้าใจอาการในจุดนี้ผิดได้) มองเห็นมัว ๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ลิมตายาก รู้สึกฝืดๆ โดยเฉพาะในตอนเช้า
วิธีแก้ : ควรจะปรับพฤติกรรม และสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เลี่ยงการเป่าไดร์เข้าตา พักสายตาจากหน้าจอคอมบ้าง กะพริบตาบ่อย ๆ หยอดน้ำตาเทียม ประคบอุ่นลดการอุดตันของต่อมไขมันเปลือกตา
2. ตากระตุก
กระตุกข้างซ้ายเขาว่าโชคดี กระตุกข้างขวาเขาว่าโชคร้าย แต่กระตุกบ่อยเกินมีสาเหตุจากการเจอแสงจ้าบ่อย ๆ นอนไม่พอ ความเครียดสะสม ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์มากไป ขาดวิตามิน/แร่ธาตุบางชนิด หรือเป็นภูมิแพ้
ด้ เจอได้ทั้งเปลือกตาบนและล่าง ทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง ไม่ทำให้บาดเจ็บ หายเองได้ในเวลาสั้น ๆ แต่บางคนก็อาจร้ายแรงและหยุดเองไม่ได้ (สัญญาณเสี่ยงโรคอันตราย)
วิธีแก้ : แก้อาการตากระตุกได้โดย นอนให้เยอะๆ ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ประคบร้อน/อุ่นที่ตาประมาณ 10 นาที ลดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ตาได้พักบ้างพร้อมกับนวดๆ รอบดวงตาไปด้วย พยายามออกไปหาอะไรทำช่วยลดความเครียด
3. ตาบวม
นอกจากซีรียส์ดราม่าจะทำตาบวมจากการร้องไห้ได้แล้ว ตาบวมยังเกิดได้จากสาเหตุอื่นอีก เช่น การกินอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป ตาจึงบวมน้ำ หรือเกิดจากภาวะภูมิแพ้ขึ้นตาที่เป็นการอักเสบของเยื่อบุตาต่อสิ่งเร้าภายนอก ได่แก่ ฝุ่น ไร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้เป็นต้น
วิธีแก้ : ลดอาการตาบวมด้วยการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ใช้เครื่องกรองอากาศ ลดไรฝุ่น ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม หยอดน้ำตาเทียมชนิด Preservative ล้างตาด้วยน้ำเกลือเมื่อสัมผัสโดนสิ่งกระตุ้น
4. ตาแตก (เส้นเลือดฝอยในตาแตก)
เกิดจากเส้นเลือดฝอยในตาแตก สังเกตได้เวลาเราส่องกระจกจะเห็นปื้นเลือดแดง ๆ อยู่เหนือตาขาว เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น เบ่ง ไอ จาม ความดันในร่างกายสูงกะทันหัน การแข็งตัวเลือดผิดปกติ ผู้ป่วยความดัน หรือผู้ป่วยที่ทานยาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด แม้แต่การขยี้ตาแรงๆ แปปเดียวก็เส้นเลือดแตกได้ ปกติอาการนี้จะหายได้เองใน 1 – 2 สัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหยอด
วิธีแก้ : ถ้าหากเคืองตานิดหน่อยให้หยอดน้ำตาเทียม แต่ในคนที่อาการหนักจริง ๆ หรือมีเส้นเลือดฝอยแตกซ้ำกันหลายครั้ง แบบนี้แนะนำให้มาหาหมอ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงจะดีที่สุด
5. ตากุ้งยิง
ความเชื่อที่ว่า “ตากุ้งยิงเพราะแอบดูผู้หญิงอาบน้ำ” จริง ๆ แล้วเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการอักเสบของต่อมไขมัน หรือต่อมเหงื่อบริเวณเปลือกตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ป่วยมีประวัติต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน มีประวัติเปลือกตาอักเสบ จะยิ่งทำให้การอักเสบจากการติดเชื้อเกิดได้ง่ายยิ่งขึ้น
วิธีแก้ : บรรเทาอาการอาการด้วยการประคบอุ่น 3 – 4 ครั้ง/วัน ครั้งละ 10-15 นาที โดยระหว่างหลับตาให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาประคบลงบนเปลือกตาบริเวณที่เป็นตากุ้งยิง การทำเช่นนี้จะช่วยระบายไขมันที่อุดตันบริเวณนั้นออกไปช่วยบรรเทาอาการตากุ้งยิงให้ดีขึ้น ส่วนใหญ่ตากุ้งยิงจะหายไปเองภายในหนึ่งอาทิตย์
อาการของดวงตาไม่ได้เกิดจากความเชื่อ แต่เกิดจากการที่เราไม่ได้ดูแล หมั่นตรวจสุขภาพดวงตาโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลรักษาให้ดีก่อนที่จะเสียดวงตาของเราไป