ดื่มน้ำระหว่างออกกำลังกาย เทคนิคดี ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

การดื่มน้ำ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในขณะที่เราออกกำลังกายนั้นร่างกายจะสูญเสียน้ำทางเหงื่อตลอดเวลา ยิ่งถ้าเราออกกำลังกายติดต่อกันเป็นเวลานานหรือกลางแจ้งด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น ถ้าขาดน้ำมาก ๆ จะส่งผลให้เกิด ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ได้ ภาวะขาดน้ำนั้นจะทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติได้ เช่น หน้ามืด ลมแดด และเป็นตะคริวนั่นเอง

วิธีง่าย ๆ ที่เราสามารถตรวจสอบว่าเราดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่นั้น เราสามารถสังเกตสีปัสสาวะ ถ้าสีปัสสาวะเป็นสีเข้ม แสดงว่าร่างกายของเราขาดน้ำ แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีการทานอาหารเสริมด้วย เช่น วิตามินซี วิตามินบี ก็จะทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนสีได้เช่นกัน

เราจึงควรจะเริ่มเตรียมตัวดื่มน้ำตั้งแต่ก่อนออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ดูดซึมน้ำเข้าไป เพราะถ้าเราดื่มน้ำเยอะ ก่อนออกกำลังกาย อาจทำให้เราจุกได้

เทคนิคการดื่มน้ำ

โดยเราจะแบ่งการดื่มน้ำออกเป็น 4 ช่วง ดังนี้
1. 2-3 ชั่วโมง ก่อนออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำ 500-600 มิลลิลิตร
2. 30 นาที ก่อนออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำ 200-300 มิลลิลิตร
3. ระหว่างออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำ 200-300 มิลลิลิตร ทุก 10-20 นาที
(ถ้าออกกำลังกายไม่เกิน 30 นาที สามารถดื่มน้ำหลังจากออกกำลังกายเสร็จได้เลย แต่ถ้านานกว่านี้ ควรจิบน้ำเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำนาน)
4. หลังจากออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำ 1-1.5 ลิตร/น้ำหนักตัวที่หายไป 1 กิโลกรัม
(ถ้าให้ดีเราควรชั่งน้ำหนักก่อน และหลังออกกำลังกายจะทำให้เรารู้ว่าร่างกายสูญเสียน้ำไปเท่าไหร่ จะได้ดื่มทดแทนได้อย่างเพียงพอ)

การดื่มน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการออกกำลังกาย เพราะการดื่มน้ำอย่างเหมาะสมจะทำให้เราออกกำลังกายได้เต็มที่ หากร่างกายเริ่มขาดน้ำจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยกว่าความเป็นจริงนั่นเอง