ปัญหาที่ผู้ชายส่วนใหญ่เจอ เมื่ออายุมากขึ้น คือการที่ปัสสาวะไม่ค่อยออก ปัสสาวะยาก ถึงแม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่ได้ร้ายแรงมากนัก แต่ปัญหาเหล่านี้ก็ทำให้ใช้ชีวิตได้ลำบาก วันนี้ มาดู 10 อาหารป้องกันต่อมลูกหมากโต ที่หาทานได้ง่าย ๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสเบอร์รี และแบล็กเบอร์รี รวมถึงเบอร์รีไทย ๆ อย่าง ลูกหม่อน และลูกหว้า ล้วนเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุของการอักเสบภายในร่างกาย รวมถึงทำให้เกิดภาวะต่อมลูกหมากโต และเนื้องอกชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย

2. ปลาแซลมอน
ปลาที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็ง และลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี มีการศึกษาพบว่าการรับประทานปลาแซลมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง อาจช่วยลดความเสี่ยงอาการต่อมลูกหมากโต และยังสามารถชะลอการพัฒนาของเนื้องอกต่อมลูกหมากไปเป็นมะเร็ง หรือหยุดการลุกลามของโรคได้อีกด้วย นอกจากแซลมอนแล้วยังมีปลาซาร์ดีนและปลาเทราต์ ก็มีโอเมก้า 3 ด้วยเช่นกัน

3. มะเขือเทศ
มีสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อเซลล์ต่อมลูกหมาก โดยเฉพาะมะเขือเทศที่ปรุงสุก เช่น มะเขือเทศย่าง น้ำมะเขือเทศ หรือซุปมะเขือเทศ จะยิ่งช่วยให้ร่างกายได้รับไลโคปีนได้มากกว่าการรับประทานมะเขือเทศสด ผู้บริโภคมะเขือเทศสด 50 กรัม/วัน เป็นเวลา 10 สัปดาห์ สามารถลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโตได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับผู้ที่กินมะเขือเทศสุก เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ และพิซซ่าที่มีส่วนประกอบของมะเขือเทศ ลดความเสี่ยงได้ถึง 35% ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มะเขือเทศแปรรูปวางจำหน่ายหลากหลาย การเลือกดื่มน้ำมะเขือเทศวันละ 1 แก้ว จึงเป็นวิธีป้องกันต่อมลูกหมากโตได้ดีวิธีหนึ่งเลยทีเดียว

4. บร็อกโคลี และผักตระกูลกะหล่ำ
เช่น กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว และกะหล่ำปลี มีสารซัลโฟราเฟน (Sunforaphane) มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง รวมถึงช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ล้างพิษของร่างกาย จากการศึกษาพบว่าการกินบร็อคโคลี่มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง สามารถลดโอกาสในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากระยะ 3 และ 4 ได้ถึง 45% วิธีปรุงบร็อคโคลี่ที่ดีที่สุดคือ การนึ่งหรือผัดไม่นานเกิน 5 นาที หากผัดสุกเกินไปความสามารถในการต้านมะเร็งจะลดลง และจะยิ่งมีประโยชนมากขึ้นด้วยการเพิ่มน้ำมันมะกอก กระเทียมสด และพริกป่น

5. ถั่ว
อุดมด้วยสังกะสี และซีลีเนียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุ สำคัญต่อการทำงานของต่อมลูกหมาก รวมถึงช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย นอกจากนี้ยังพบว่าสังกะสีมีมากในหอยนางรมและอาหารทะเลอื่น ๆ อีกด้วย

6. ชาเขียว
ชาเขียวประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แคทีชิน (Catechins) ซึ่งสามารถทำลายแบคทีเรีย และไวรัสบางชนิด เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเพื่อต่อสู้กับมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก ทั้งนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงสิ่งที่จะเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย

7. เห็ด
สามารถช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเห็ดหอม ซึ่งอุดมด้วยเลนติแนน (Lentinan) ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ ยับยั้ง หรือป้องกันการเติบโตของเซลล์เนื้องอก และมะเร็งได้ดี นอกจากนี้เห็ดอื่น ๆ เช่น เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดหลินจือ และเห็ดไมตาเกะ ยังมีสารเออร์โกไธโอนีน (Ergothioneine) หรือสารแอนติออกซิแดนท์ที่มากคุณค่า ช่วยปกป้องเซลล์ทั่วร่างกาย รวมถึงต่อมลูกหมากจากความผิดปกติได้ ทั้งนี้การปรุงเห็ดในน้ำมันจนสุกจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารมากขึ้นด้วย

8. ทับทิม
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเอลลาจิแทนนิน (Ellagitannin) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบำรุงต่อมลูกหมาก และสามารถชะลอการลุกลามของมะเร็งต่อมลูกหมากได้

9. เมล็ดฟักทอง
ช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโต น้ำมันจากเมล็ดฟักทองประกอบด้วยไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) ซึ่งจัดว่าเป็นสเตียรอยด์ฮอร์โมน (Steroid hormone) เพศชายที่ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้ตามปกติ และป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ต่อมลูกหมากทำงานมากจนเกินไป และน้ำมันเมล็ดฟักทองยังมีแคโรทีนอยด์ และกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโต และมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย
