ด้วยปัจจัยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันเต็มไปด้วยสิ่งรบกวนภายนอกมากมายที่อาจทำให้ร่างกายของเราเสื่อมโทรมได้ไวขึ้น รวมถึงสภาพผิวที่ต้องเจอทั้งฝุ่น ควัน และแสงแดด นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายตามปกติในชีวิตประจำวันแล้ว เราควรรู้จักการเสริมด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กว่าเดิมด้วยสารอาหาร “กลูต้าไธโอน” เพื่อสุขภาพผิว
ประโยชน์ของกลูต้าไธโอน
– ช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสมากขึ้น
โดยการทำงานของกลูต้าจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งจะช่วยทำให้การสร้างเมลานิน (Melanin) ในผิวลดลง
– กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
กลูต้าไธโอนยังช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส ได้ดียิ่งขึ้น
– เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยป้องกันความเสื่อมสภาพให้เซลล์ภายในร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย ต้านการอักเสบ ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้
– ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
ช่วยฟื้นฟู และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย โดยทำให้ให้สารพิษ เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ละลายในไขมัน และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น
10 อาหารที่อุดมด้วยไปด้วยกลูต้าไธโอน
1. อะโวคาโด
หนึ่งในสารอาหารยอดฮิตสำหรับคนที่อยากดูแลสุขภาพคือ อะโวคาโด เพราะในอะโวคาโดมีกรดไขมันโอเมก้า ซึ่งเป็นกรดไขมันดี ชนิดไม่อิ่มตัว ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันโรคหัวใจได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมเต็มร่องลึก พร้อมทั้งปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ชะลอความชราภาพ ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้อีกด้วย
2. ผักโขม
ผักโขมมีส่วนประกอบของลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และยังมีกลูต้าไธโอนในปริมาณสูง พร้อมกรดอัลฟาไลโปอิกซึ่งเป็นตัวช่วยในการผลิตกลูต้าไธโอน ฉะนั้นการรับประทานผักโขมจะช่วยบำรุงให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก แถมยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย
3. หน่อไม้ฝรั่ง
ในหน่อไม้ฝรั่งอุดมไปด้วยสารกลูต้าไธโอนในปริมาณสูงมาก และที่สำคัญคือมีลูทีนที่จะช่วยผลิตคอลลาเจนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แนะนำให้บริโภคแบบสด ๆ ไม่ต้องนำไปต้ม เพราะกลูต้าไธโอนจะถูกทำลายเมื่อผ่านความร้อน แถมยังไม่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอลให้กวนใจ มีกากใยสูง ใครที่กำลังลดน้ำหนักก็สามารถหยิบมาล้างและหั่นใส่สลัดกินสด ๆ ได้เลย
4. เห็ด
เห็ดอุดมไปด้วยซีลีเนียมที่มีความจำเป็นต่อการสร้างกลูต้าไธโอนให้กับผิว และยังอุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งเพิ่มพลังงานในการเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง พร้อมทั้งมีทั้งเส้นใยที่ช่วยขับถ่ายและลดน้ำหนัก ใครที่มีปัญหาเรื่องขับถ่ายไม่สะดวก ลองรับประทานเห็ดเพิ่มเติม เพราะเมื่อเราขับถ่ายได้ดีขึ้นก็จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่ดีและทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น
5. ถั่วเหลือง
ถั่วเหลือง มีสารอาหารสำคัญอย่างกรดอะมิโนอยู่ 3 ชนิด คือ ซิสเตอีน ไกลซีน และกลูตามิก ซึ่งกรดทั้ง 3 ชนิดนี้มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างกลูต้าไธโอนได้ และนอกจากนี้ยังมีสารไอโซฟลาโวนที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เร็วขึ้น รวมถึงเป็นสารอาหารที่สามารถเลือกรับประทานได้หลายรูปแบบทั้งเต้าหู้ขาว น้ำเต้าหู้ และนมถั่วเหลือง ตอบโจทย์สำหรับคนรักสุขภาพ
6. ส้ม
ส้ม เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย มีทั้งวิตามินซี เบต้าแคโรธีน รวมถึงกลูตาไธโอนด้วย ซึ่งสารอาหารทั้งหมดนี้สามารถช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง สามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมภายนอกได้ดี ช่วยลดการอักเสบจากการโดนแดด ฟื้นฟูและบำรุงผิวให้กระจ่างใส ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ยังแก้ท้องผูกได้ เพราะมีใยอาหารสูง ช่วยในระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย
7. สตรอเบอร์รี
นอกจากรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนแล้ว สตรอเบอร์รียังอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระและกลูต้าไธโอน จึงช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง มีออร่า พร้อมช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ เต่งตึงกระชับ บอกลาความหย่อนคล้อย แถมมีส่วนช่วยต้านโรคหัวใจได้ด้วยกรดเอลลาจิก ฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยลดคอเรสเตอรอลซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของหัวใจนั่นเอง
8. บีทรูท
บีทรูทมีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เริ่มจากสารสีแดงในหัวคือ เบทานิน เป็นกรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง ช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น แถมยังมีสารไลโคปีนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มระดับกลูต้าไธโอน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระชับมากขึ้น พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยและยังช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดได้ และยังช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคต้อกระจกได้ด้วย
9. บล็อกโคลี
บล็อกโคลีจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์และทำลาย DNA ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีกรดอัลฟาไลโปอิกที่ช่วยเสริมกลูต้าไธโอนในร่างกาย พร้อมทั้งซีลีเนียมที่จะเข้าตรงช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่น แลดูอ่อนเยาว์
