Skip to content
งีบหลับ หรือ การนอนงีบ คือ การนอนหลับในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นอกจากจะเป็นการชาร์จพลังงานให้สมองและร่างกาย รวมทั้งชดเชยเวลานอนที่ไม่เพียงพอแล้ว ยังช่วยลดความตึงเครียด ทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใสได้ด้วยนะ งีบวันละนิด ช่วยให้ชีวิตกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไร ที่นี่มีคำตอบ
การนอนงีบ ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้ไหมว่า การใช้เวลา งีบหลับ แค่เพียง 10 นาที อาจช่วยให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมที่จะทำงานต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมง นักวิจัยยังพบว่า การงีบหลับในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการนอนหลับนาน 30 นาที – 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของร่างกายแต่ละคน ก็มีผลถึงความต้องการ การงีบระหว่างวัน ด้วย บางคนไม่จำเป็นเลย บางคนก็ต้องการเพียงเล็กน้อย หรือบางคนอาจต้องการหลับไปนาน ๆ เลยก็มีเช่นกัน
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน ได้เปิดเผยว่า ช่วงระยะเวลาของการนอนหลับ จะมีผลต่อสุขภาพ ทั้งด้านสมองและร่างกาย สามารถทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความตึงเครียด ทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส นอกจากนี้ระบบร่างกายของคุณก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งบางคนอาจจะงีบหลับเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่สำหรับบางคนก็อาจจะนอนหลับลึกหลายนาทีเลยก็ได้ หรือเรียกอีกอย่างว่า “หลับลึก” โดยระยะเวลาของการนอนงีบในแต่ละช่วง จะมีผลต่อร่างกายที่ต่างกันอีกด้วย
ประเภทของการนอนงีบ
Planned napping : เป็นการนอนงีบก่อนที่จะเข้าสู่การนอนหลับจริง ๆ โดยการก่อนเข้านอนจะช้าหรือเร็วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับกลไกของสมอง และความเหนื่อยล้าของร่างกาย
Emergency napping : หากร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้ามาก เราจะรู้สึกง่วงเพลียและหมดสติไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการนอนงีบประเภทนี้ไม่ใช่การหลับเพื่อสุขภาพที่ดี เเต่เกิดขึ้นจากร่างกายอ่อนล้า และเหน็ดเหนื่อยจากการใช้พลังงานมากเกินไป
Habitual napping : เป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่ำเสมอของการนอนงีบของแต่ละคนในแต่ละวัน โดยจะมีช่วงเวลาเดียวกัน สำหรับวัยเด็กจะใช้เวลาในการนอนงีบประมาณช่วงบ่าย ส่วนวัยผู้ใหญ่มักจะใช้เวลานอนงีบช่วงสั้น ๆ หลังมื้ออาหารในแต่ละวัน
ประโยชน์ของการงีบระหว่างวัน
๐ ทำให้เกิดการตื่นตัวในการทำงานทั้งทางสมองและร่างกาย เกิดความกระตือรือร้น อาการร่วงโรยเหี่ยวเฉาจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
๐ ช่วยลดความเครียด-ความหงุดหงิด เป็นการผ่อนคลายสมอง เพราะการหลับจะช่วยลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
๐ ทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการจดจำได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น
๐ การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า 40% การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดีและมีความพร้อมมากขึ้น
๐ สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการงีบระหว่างวันจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
เคล็ดไม่ลับ ระยะเวลาที่ควรงีบระหว่างวัน
๐ นอนหลับ 10 – 20 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานและคืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองโปร่ง เพราะอยู่ในช่วง non – rapid eye movement (NREM)
๐ นอนหลับ 30 นาที เป็นเวลานอนที่ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เพราะจะยังคงรู้สึกง่วง มึนงง เหมือนกับนอนไม่พอ และยังคงไม่พร้อมที่จะทำงาน ซึ่งกว่าอาการนี้จะหายไปก็ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีต่อมา
๐ นอนหลับ 60 นาที เป็นช่วงที่ดีต่อความจำ ซึ่งเรียกว่าอยู่ในช่วง Slow – wave sleep เป็นการหลับลึกที่ยังคงความง่วง แต่สมองสามารถเสริมความจำดีไว้ได้
๐ นอนหลับ 90 นาที เป็นการนอนที่ครบรอบ กล่าวคือ มีหลับลึกและไม่ลึกมากนัก อาจมีการฝันบ้าง ช่วยให้อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่งัวเงียเหมือนช่วง 30 – 60 นาที
การนอนหลับ เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อระบบภายในร่างกาย ซึ่งภาวะของการอดนอน หรือนอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเกิดโรคร้ายแรงตามมาภายหลังได้ เราจึงต้องมีการนอนงีบระหว่างวันในช่วงระยะเวลาที่พอเหมาะ จะสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ ความตื่นตัว และประสิทธิภาพของการทำงานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการนอนงีบจึงเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และมีการหลั่งของฮอร์โมนที่เร่งการเติบโต สามารถสร้างความรู้สึกตื่นตัว และเพิ่มความจำของสมองมากขึ้น เมื่อเทียบกับการไม่ได้นอนงีบเลย