Skip to content
” รู้ไว้ไม่เสียหาย “ เมื่อความเสี่ยงต่าง ๆ ได้เข้าใกล้เรามากขึ้นและข้อมูลข่าวสารที่เริ่มกระจายถึงข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโรค หรือโรคภัยที่เราไม่รู้จัก จึงทำให้เรานั้นต้องมีความตระหนักถึงความเสี่ยง และพยายามสังเกตถึงอาการที่แสดงออกเบื้องต้นเพื่อนำไปสู่การรักษาจากแพทย์ เมื่อเชื้อไวรัสนั้นเริ่มมีการกระจายความเสี่ยงเป็นวงกว้างและสามารถที่จะติดต่อกันได้จากเหตุการณ์บางเหตุกาณ์ที่บางครั้งเราก็ไม่รู้และไม่ระมัดระวัง อย่าง เชื้อ HPV ฉะนั้นเรามาดูถึงสาเหตุหลักของการติดเชื้อนี้กัน พร้อมดูถึงวิธีรักษาให้ทันก่อนจะเป็นอันตรายจนยากที่จะรักษา
เชื้อไวรัส HPV คือ ?
เชื้อไวรัส HPV หรือ Human Pailloma Virus เป็นเชื้อแปปิโลมา ซึ่งเป็นเชื้อชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อผ่านเนื้อเยื่อบุผิว และก่อโรคขึ้นบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยการสัมผัสเชื้อโดยตรง หรือการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อผู้ชายติดเชื้อ HPV จะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ก่อเกิดเป็นมะเร็งในช่องปาก โรคหูดหงอนไก่ มะเร็งทวารหนักได้ นอกจากนี้ผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกายมักจะไม่มีอาการที่แสดงออกมา จึงทำให้แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพบเชื้อชนิดนี้ที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากที่สุดคือสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงจำนวนมาก และยังคร่าชีวิตทั้งยังเพิ่มอัตราขึ้นทุกปีอีกด้วย
เชื้อ HPV VS เชื้อ HIV แตกต่างกันอย่างไร ?
โรคติดเชื้อ HPV และ HIV เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ STD (Sexually Transmitted Disease) ที่เป็นโรคติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง โดยผ่านการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกัน แต่เกิดจากเชื้อไวรัสคนละสายพันธุ์
– HPV คือ โรคเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Human Papilloma Virus
– HIV คือ โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Human Immunideficiency Virus ซึ่งเป็นไวรัสของสาเหตุภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หากผู้ที่ติดเชื้อ HIV และ HPV จะส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เช่น ผู้ชายที่มีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกาย เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงนอกจากการติดเชื้อ HIV ยังเสี่ยงต่อเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกด้วย
ปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อ HPV
เช็กลิสต์! อาการ HPV มีอะไรบ้าง ?
อาการ HPV มีหูดหงอนไก่ ( Condyloma Accuminate )
มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ผิวไม่เรียบหลาย ๆ ตุ่มกระจายตามอวัยวะเพศภายนอก มีอาการคัน นอกจากนี้พบได้ในปากช่องคลอด บริเวณตามมือ นิ้วมือ หรือข้อศอก บริเวณฝ่าเท้า และมีหูดที่สามารถสร้างความทุกข์ใจได้ที่สุดคือหูดที่ขึ้นอยู่อวัยวะเพศ หรือเรียกอีกอย่างว่าหูดหงอนไก่เป็นติ่งเนื้อ มีลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำ มักจะเกิดที่อวัยวะเพศหญิง อวัยวะเพศชาย และทวารหนัก ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเจ็บ แต่จะทำให้รู้สึกคันมากกว่า
อาการติดเชื้อ HPV มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ
อาจจะมีเลือดปนตกขาวออกมา ตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยจากช่องคลอด หากติดเชื้อที่ทวารหนัก ก็จะมีแผลหรือก้อนยื่นออกมาผิดปกติ โดยอาการติดเชื้อในระยะแรกทั้ง 2 แบบนี้ จะมีการเป็น ๆ หาย ๆ แต่ก็มีบางครั้งที่ผู้หญิงบางรายที่ได้รับเชื่อ HPV เข้าสู่ร่างกายแต่ไม่แสดงอาการและเชื้อก็จะหายไปเอง หรือหากภูมิตกก็อาจก่อให้เกิดความผิดปกติภายหลัง
เชื่อ HPV เป็นความน่ากลัวที่ไม่แสดงอาการออกมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดแต่จะแสดงอาการเมื่อเซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปทั่วแล้ว
การลดความเสี่ยง และ ป้องกันการติดเชื้อ HPV
– ตรวจคัดกรองมะเร็วปากมดลูกเป็นประจำทุก 3 ปี และตรวจหาเชื้อไวรัส HPV
ทุก 5 ปี
– หากมีอาการผิดปกติควรเข้ารับการตรวจหรือปรึกษากับสูตินรีแพทย์
– ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี
ดูแลตัวเองเมื่อติดเชื้อ HPV
เมื่อทราบว่าตนเองติดเชื้อ HPV สิ่งที่ควรทำเลยคือ อย่าละเลยการเข้ารับรักษา และควรทำใจให้สบาย เพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองทุก ๆ 6-12 เดือน ตามแพทย์นัด เพื่อเฝ้าระวังเชื่อ HPV ลุกลามเกินดูแล
การฉีดวัคซีนที่ป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้นมีทางเลือกของการเสริมภูมิคุ้มกัน โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ
– วัคซีน 2 สายพันธุ์ (Bivalent vaccine : Cervarix) คือวัคซีนที่ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 2 สายพันธุ์ ได้แก้ สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
– วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (Quadrivalent vaccine : Gardasil) คือวัคซีนที่ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16, และ 18 ซึ่งสายพันธุ์ 6 และ 11 ที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่
– วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (6/11/16/18/31/33/45/52/58)
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิด เชื้อ HPV ได้นั้นสามารถลดการเสี่ยงติดเชื้อได้หากใส่ใจเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าจะไม่ได้ลดความเสี่ยงถึงสูงสุดแต่ก็สามารถทำให้ลดอัตราการรับเชื้อได้ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเบื้องต้นนั้นก็สามารถเข้ารับได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย การเข้ารับฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกนั้นควรที่จะทำ เพราะสามารถลดการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรงและลดอัตราความเสี่ยงติดเชื้อได้ดี เนื่องจากเป็นการป้องกันที่คุ้มค่าด้วย เราเลยอยากสนัยสนุนให้ ใส่ใจในการศึกษาข้อมูลและเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสุขภาพของตัวเราเอง