Skip to content
ก่อนจะเป็นโรคใด ๆ ก็ตาม มักจะมีอาการอะไรบางอย่างที่แสดงให้เรารู้ถึงความผิดปกติของร่างกาย มีแต่เรานี่แหละที่จะมองว่าเป็นอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เดี๋ยวก็หาย จนทำให้เราละเลยที่จะใส่ใจสุขภาพของตัวเอง กว่าจะรู้ตัวก็อาจจะสายเกินไป
“ปัสสาวะบ่อย” อาจเป็นอาการที่ใครหลายคนเป็นอยู่ แต่ก็ได้แค่สงสัย และไม่ได้เข้ารับการตรวจกับแพทย์ จริง ๆ แล้วคุณอาจเสี่ยงเป็นโรคอันตรายมากมาย ดังต่อไปนี้
1.ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป
ดูจะเป็นภาวะชื่อแปลก ๆ แต่มีอยู่จริง หากกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป จะทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย แม้ว่าจะมีปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะไม่มาก หรือปัสสาวะยังไม่ทันเต็มกระเพาะก็ปวดจนอยากจะปล่อยออกมา ความบ่อยของการปัสสาวะอยู่ที่ราว ๆ ทุกชั่วโมง อาจรบกวนการนอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืน เพราะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อย จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ แม้จะปัสสาวะเพียงเล็กน้อย แต่ก็ปวดมาก และกลั้นไม่ค่อยไหว
2.กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
มีอาการคล้ายกับภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินไป โดยอาจเป็นโรคที่ตามมาหลังจากเกิดภาวะนี้ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ บ่อย ๆ ทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดีพอ (เช่น การใช้กระดาษชำระเช็ดจากด้านหลังมาด้านหน้า) ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคเบาหวาน หรือเป็นผู้ป่วยที่ต้องใช้สายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
3.โรคเบาหวาน
การปัสสาวะบ่อยของคนที่เป็นโรคเบาหวาน เกิดจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูง ไตพยายามกรองเอาสารอาหารที่มีประโยชน์อย่าง น้ำตาล กลับคืนสู่ร่างกาย แล้วส่งออกไปพร้อมปัสสาวะ จึงทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติทั้งกลางวัน และกลางคืน
4.โรคเบาจืด
โรคเบาจืด เป็นโรคที่ทำให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนที่ควบคุมสารน้ำในร่างกาย มักมีอาการกระหายน้ำร่วมด้วย จนทำให้ปัสสาวะบ่อย ในปริมาณที่มากกว่า 2.5 ลิตรต่อวัน โดยอาจเกิดจากความผิดปกติของไต จากการกระหายน้ำที่ผิดปกติ และจากการตั้งครรภ์
5.โรคไต
อาการอย่างหนึ่งของคนที่เป็นโรคไต ไตอักเสบ ไตเสื่อม ไตวาย คืออาการปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน อันเนื่องมาจากภาวะการทำงานที่ผิดปกติของไต ไตไม่สามารถดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้ดีเช่นเดิม จึงทำให้น้ำถูกขับออกจากร่างกายมากกว่า และบ่อยกว่าปกติ
6.นิ่ว/ก้อนเนื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะ
เมื่อมีนิ่ว หรือมีก้อนเนื้อเกิดขึ้นในบริเวณกระเพาะปัสสาวะหรือใกล้เคียง อาจโตจนเข้าไปเบียดกระเพาะปัสสาวะจนทำปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะเร็วขึ้น เลยทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ เป็นเหตุผลคล้ายกันกับหญิงตั้งครรภ์ที่ขนาดมดลูกขยายจนมาเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติเช่นกัน
7.ต่อมลูกหมากโต
ต่อมลูกหมากโต ทำให้ผนังกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น เนื่องจากต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อขับน้ำปัสสาวะให้ผ่านท่อแคบ ๆ (ที่ต่อมลูกหมากไปเบียดอยู่ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะขัด) และเมื่อผนังกระเพาะปัสสาวะหนาตัวขึ้นก็จะส่งผลต่อความสามารถในการกักเก็บน้ำปัสสาวะลดลง จึงต้องปัสสาวะบ่อย
8.ดื่มน้ำมากเกินไป
เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้ยากในภาวะที่คนส่วนใหญ่มักจะดื่มน้ำไม่พอเสียมากกว่า แต่ประเด็นนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณทานอาหารรสจัดจนทำให้กระหายน้ำบ่อย การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การเกิดภาวะกระหายน้ำผิดปกติที่เกิดมาจากระบบประสาท และสาเหตุอื่น ๆ ที่บังคับให้คุณรู้สึกกระหายน้ำมาก จนต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติไปด้วย
หากมีอาการปัสสาวะบ่อยราวทุก ๆ ชั่วโมง หรือปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน รวมไปถึงปวดปัสสาวะมากจนกลั้นแทบไม่อยู่ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด