คอลลาเจนเปปไทด์ ทำความรู้จักและเจาะลึกเรื่องคอลลาเจน
ในยุคสมัยที่อะไร ๆ ก็ต้องผิวขาวไว้ก่อนไม่ว่าจะเป็นหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมต่างหันมาให้ความสนใจกับเรื่องการบำรุงผิวพรรณกันมากขึ้น เพราะเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ช่วยสร้างเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการพบปะผู้คนหรือถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ คงไม่มีใครที่อยากดูไม่ดีใช่ไหมล่ะ
Collagen คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ภายในร่างกาย ทำหน้าที่ในการประสานโครงสร้างต่าง ๆ ของร่างกายเข้าด้วยกัน ซึ่งร่างกายของเรามีคอลลาเจนมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกาย ส่วนมากจะพบที่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น รวมทั้งอวัยวะอื่น ๆ โดยผิวหนังมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 70% จึงช่วยให้ผิวพรรณสดใส เรียบตึง นุ่มชุ่มชื้น แถมไม่หย่อนคล้อยอีกด้วย ส่วน Collagen Peptide คือ คอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยจากเอนไซม์ จนทำให้มีขนาดโมเลกุลที่เล็กมาก ๆ ส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าคอลลาเจนในรูปแบบอื่น ซึ่งคอลลาเจนเปปไทด์มีส่วนช่วยทำให้ผิวสวย ใส เต่งตึง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนปรารถนา

ความแตกต่างของคอลลาเจนเปปไทด์และคอลลาเจนรูปแบบอื่น ??
คอลลาเจนเปปไทด์มีขนาดโมเลกุลที่เล็กมาก ๆ โดยมีขนาดโมเลกุลที่เล็กกว่าคอลลาเจนธรรมชาติทั่วไปมากถึง 1,000 เท่า จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าคอลลาเจนประเภทอื่น ๆ และส่งตรงได้ถึงผิวหนังของชั้นหนังแท้ได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังทนต่อความร้อน ละลายน้ำเย็นได้ดี ง่ายต่อการรับประทานมีได้หลายรูปแบบ ทั้งการทานแบบผงและเม็ด , การฉีด เป็นต้น
ประโยชน์ที่ได้จากคอลลาเจนเปปไทด์
โดยปกติแล้วเมื่อคนเรามีอายุเกินกว่า 25 ปี ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต่างจะต้องสูญเสียคอลลาเจนไปโดยเฉลี่ย 1.25-1.50 / 1 ปี ที่สำคัญผู้หญิงจะลดลงมากกว่าผู้ชาย และมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้นเมื่ออายุเริ่มเข้าสู่วัย 40 ปี หรือจากมลภาวะต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ ทั้งแสงแดด ฝุ่น และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อระดับของคอลลาเจนลดลงก็จะทำให้ความยืดหยุ่นและสภาพความแข็งแรงของโครงสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายก็จะลดลงไปด้วย ส่งผลต่อการสูญเสียความแข็งแรงของผิวหนัง จึงทำให้เกิดรื้วรอย รอยเหี่ยวย่น ผิวแห้งกร้าน ฉะนั้นการที่จะยืดอายุให้กับผิวคงสภาพเราจึงต้องเติมเต็มคอลลาเจนเพื่อคืนความยืดหยุ่นให้กับร่างกายและผิวพรรณให้กลับมาสดใส ริ้วรอยลดลง โดยการเลือกทานคอลลาเจนเปปไทด์ ให้เข้าาไปช่วยบำรุงเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. ประโยชน์ด้านผิวพรรณ

หากคุณรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ในปริมาณ 5 กรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 4-8 สัปดาห์ จะสามารถป้องกันและช่วยลดรอยหมองคล้ำที่มีต้นเหตุมาจากรังสี UV ไม่เพียงเท่านั้นคุณยังสามารถสัมผัสได้ว่าผิวมีความนุ่มลื่น , ชุ่มชื้นเปล่งประกาย , เติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นเรียบเนียน , จุดด่างดำค่อย ๆ ดูจางลง , ช่วยให้ผิวกระชับพร้อมกับยืดหยุ่นขึ้น และเพิ่มการผลิตกรดไฮยาลูโรนิค เพื่อกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ในผิวหนังชั้นใน
2. ประโยชน์ด้านข้อต่อและกระดูก

จากการวิจัยพบว่าคอลลาเจนเปปไทด์สามารถยับยั้งการเสื่อมของคอนโดรไซต์ และกระตุ้นการสร้างไกลโคสะมิโนไกลแคนทำหน้าที่สร้างสารหล่อลื่นในข้อต่อ นอกจากนั้นยังสารถป้องกันกระดูกอ่อน ข้อต่อ และเนื้อกระดูกไม่ให้ถูกทำลาย พร้อมยังช่วยลดอาการปวดเข่าจากการเสียดสีของกระดูก ซึ่งมักพบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยการทานคอลลาเจนเปปไทด์ปริมาณ 10 กรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 45 วันเท่านั้น แถมสามารถช่วยบำรุงสุขภาพเล็บให้แข็งแรง, เพิ่มความหนาของเส้นผมไม่ให้เส้นผมหลุดร่วง และสายตา
3. ประโยชน์ด้านการรักษารอยแผลเป็น

มีผลการทดลองยืนยันว่าคอลลาเจนเปปไทด์สามารถรักษารอยแผลเป็นอย่างเห็นผลชัดเจน ด้วยการทานปริมาณ 10 กรัมต่อวัน แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ตอนเช้า 5 กรัม และตอนเย็น 5 กรัม เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ จะพบว่ารอยแดงของแผลเป็น มีขนาดเล็กลง จุดด่างดำค่อย ๆ จางลงอย่างต่อเนื่อง
ฉะนั้น สามารถสรุปได้ว่าการเลือกทานคอลลาเจนเปปไทด์จะได้ประโยชน์ และประสิทธิภาพเต็มที่มากกว่าการทานคอลลาเจนรูปแบบอื่น แต่เพื่อความปลอดภัยควรเลือกทานคอลลาเจนเปปไทด์บริสุทธิ์ที่มาจากปลาทะเลธรรมชาติ โดยไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ไม่โดนตัดแต่งพันธุกรรม เป็นปลาทะเลตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่คงตามสภาพเดิม และมีสารสำคัญที่ครบถ้วน รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด อย่าง Progen Truple Complex Collagen Plus
