Skip to content
ช่วงนี้บ้านเราเริ่มมีฝนบ้างแล้ว เป็นสัญญาณที่บอกว่าประเทศไทยกำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน นอกจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ผิวก็ต้องดูแลเช่นกันเพราะฝนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างและต้องรับมืออย่างไรติดตามได้ในบทความความนี้
หน้าฝนใครหลายคนคงละเลยการดูแลผิวไปอาจเพราะสภาพอากาศที่ดูสลัว ท้องฟ้าครึ้ม ๆ ไม่มีแสงแดด จึงไม่ได้ทาครีมกันแดดปกป้องผิวแต่แท้ที่จริง แล้วรังสี UV นั้นยังคงอยู่รอบตัวเราอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังต้องเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวชื้นก่อให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ให้ปวดหัวอีก
นอกจากนี้หน้าฝนยังส่งผลให้มีความชื้นในอากาศมาก แต่เป็นความชื้นที่ผสมกับความร้อนเพราะก่อนที่ฝนตกอากาศจะอบอ้าวแบบร้อนชื้น ทำให้ผิวหน้ามันเกิดเป็นสิวอุดตันหรือสิวผดได้ และหากได้โดนกับน้ำฝนที่ปนเปื้อนกับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกในอากาศด้วยแล้วก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้
1. ผิวอักเสบ และเกิดผดผื่น
ใครที่โดน ฝน ที่เพิ่งตกมาใหม่ ๆ อาจเกิดปัญหาผิวอักเสบ เพราะน้ำฝนที่ตกลงมานั้นได้เอาพวกมลภาวะต่าง ๆ ทั้งสารเคมี เชื้อโรค สิ่งสกปรกในอากาศลงมาด้วย หากไม่รีบทำความสะอาดก็จะเกิดการสะสมเชื้อโรคและตกค้างของสิ่งสกปรกบนผิวของเราได้ และเนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นของอากาศเปลี่ยนแปลงไปอาจทำให้มีอาการคันบริเวณข้อพับแขน ข้อพับขา ใบหน้า แขน ขา และซอกคอได้
2. ผิวหมองคล้ำ
หลายคนเห็นครึ้มฟ้าครึ้มฝนไม่มีแดดจึงชะล่าใจไม่ทาครีมกันแดด แต่รู้หรือไม่ว่ารังสี UV ที่เรามองไม่เห็นยังผ่านชั้นบรรยากาศมาทำร้ายผิวเราได้ ซึ่งรังสี UV คือศัตรูตัวฉกาจที่ทำร้ายผิว และรังสี UV มีอยู่เกือบทุก ๆ ที่รอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือที่ร่ม เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย แห้งกร้าน เสี่ยงเกิดฝ้าและกระได้
3. ผิวมัน
ฤดู ฝน ที่มีอากาศร้อนชื้นทำให้เกิดการสูญเสียน้ำใต้ผิวหนังไปอย่างรวดเร็วเกิดเป็นภาวะผิวขาดน้ำ ร่างกายจึงต้องปรับสมดุลด้วยการชดเชยความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยการผลิตน้ำมันใต้ชั้นผิวออกมาทดแทน ทำให้รูขุมขนขยายขึ้น หน้ามันเยิ้มและเป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวอื่น ๆ ตาม
4. สิว
อากาศร้อนอบอ้าวบวกกับความชื้นในอากาศทำให้ผิวมีความมัน พอมีน้ำมันมาเคลือบผิวหน้ามาก ๆ ก็ทำให้สิ่งสกปรกมาเกาะติดกับผิวหน้าได้ง่ายซึ่งเป็นสาเหตุของการ เกิดสิวไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวผด รวมถึงสิวบริเวณร่างกายอย่างสิวที่หลัง หน้าอก หรือจุดที่มีเหงื่อออก
1. ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
ไม่ว่าฤดูไหน ๆ ครีมกันแดดก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะครีมกันแดดถือว่าเป็นด่านแรกที่ช่วยปกป้องและเสริมความแข็งแกร่งให้กับชั้นปราการผิว ซึ่งหากเราไม่ทาครีมกันแดดเลยจะทำให้รังสียูวีไปทำลายเซลล์ผิว ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหนังเหี่ยว และดูแก่กว่าวัย
2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น
หลังขั้นตอนการทำความสะอาดผิว ผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้นจึงควรบำรุงผิวทันทีและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวนั้น ๆ ซึ่งช่วงหน้า ฝน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ซึมซาบไว แห้งเร็ว ไม่ทำให้ผิวมันอบ่างเนื้อครีมโลชั่น เนื้อเจล หรือที่เป็นแบบ Oli Free
3. รักษาความสะอาด
น้ำฝนมีสิ่งสกปรกและเชื้อโรคปนอยู่มากมายหากโดน ฝน ควรชำระร่างกายให้สะอาดทันที ไม่ควรตากฝนและปล่อยให้ตัวหรือศรีษะชื้น เพื่อหลีกเลี่ยงโรคจากเชื้อรา สิว ผดผื่น และควรสระผมเป็นประจำทุกวัน
4. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย รวมถึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ซึ่งปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมต่อวันสามารถแบ่งตามกลุ่มวัยได้ดังนี้ (นับรวมปริมาณน้ำที่ได้จากอาหาร หรือผักผลไม้ต่าง ๆ แล้ว)– อายุ 4-8 ปี ประมาณ 1,200 มล.
– อายุ 9-13 ปี ประมาณ 1,600-1,900 มล.
– อายุ 14-18 ปี ประมาณ 1,900-2,600 มล.
– ผู้หญิงที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ประมาณ 2,100 มล.
– ผู้ชายที่อายุ 19 ปีขึ้นไป ประมาณ 3,000 มล.
5. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีวิตามินซี, อี, บี และกรดไขมันโอเมก้า3 เพื่อช่วยในการบำรุงผิว โดยมักจะอยู่ในผักผลไม้ที่สีสันสดใส ธัญพืช ถั่วต่างๆ และปลาทะเลน้ำลึก รวมถึงโปรตีนที่เป็นสารตั้งต้นที่ให้ร่างกายนำไปใช้ผลิตคอลลาเจนและนำไปใช้ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง เนื้อเยื่อ เล็บ และเส้นผม
6. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
ควรงดหรือไม่ดื่มแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่เลย เพราะแอลกอฮอล์และบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพยังทำร้ายผิวอีกด้วย ซึ่งการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่นั้นเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง หมองคล้ำ เกิดริ้วรอย ส่งผลให้ผิวแก่ก่อนวัยอันควร
เข้าหน้าฝนแล้วอย่าลืมดูแลผิวพรรณกับข้อมูลดี ๆ ที่เราเอามาฝากกันในบทความนี้เพื่อป้องกันปัญหาผิวที่มาพร้อมหน้า ฝน และอีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อผิวสวยสุขภาพดีในทุกฤดูนั่นก็คือ Progen Collagen Triple Complex Plus คอลลาเจนพรีเมียมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนไดเปปไทด์ ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 10 เท่า และมีปริมาณคอลลาเจนรวม 10,000 มิลลิกรัมต่อซอง ที่ช่วยฟื้นฟู ชะลอความเสื่อมโทรมของผิว และบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ให้คุณมีผิวสุขภาพดีจากภาพในสู่ภายนอก
คำเตือน
– เด็กและสตีมีครรภ์ไมควรรับประทาน
– ไม่ใช่อาการสำหรับควบคุมน้ำหนัก
– อาจมีผลทำให้เลือกแข็งตัวช้า